วัว-ต้นกระบก-ฟ้าผ่า ยังคงมาพบเจอกันอีกครั้ง ล่าสุดที่ทุ่งนาบ้านตาด ฟ้าผ่าลงใกล้โคนต้นกระบก วัวฝูงใหญ่ที่ไปคอยกินลูกสุก และหลบฝน ตายทันที 6 ตัว มูลค่า 2.6 แสน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ร.ต.ท.นุกรณ์ ประกอบศรี หัวหน้าตำรวจชุมชนตำบลบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งออกไปตรวจสอบ เหตุฟ้าผ่าวัวชาวบ้านตาย 6 ตัว ใต้ต้นกระบกใหญ่กลางทุ่งนา ท้ายหมู่บ้านตาด ม.1 ต.บ้านตาด พร้อมนางชลธิดา เมืองทา กำนัน ต.บ้านตาด พบซากวัวนอนตาย เป็นวัวเพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 3 ตัว และลูกวัวเพศเมีย 1 ตัว
พบกับนายสมาน ศรีจันทร์ อายุ 59 ปี อยู่ที่ 370 ม.1 ต.บ้านตาด เจ้าของวัวที่นำวัวมาเลี้ยงที่ทุ่งนา พาไปดูร่องรอยฟ้าผ่าลงที่ลำต้นกระบก ความโตมากราว 2 คนโอบ มีความสูงเด่นกลางทุ่งนากว่า 20 เมตร ขณะชาวบ้านที่รู้ข่าวพากันเดินทางมาดู วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆ ว่าที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุผ่าฟ้า ลงมาที่ต้นไม้หลายครั้ง แต่ยังไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงตาย หรือมีคนเสียชีวิตเลย
นายสมาน ศรีจันทร์ เจ้าของวัว บอกว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เช้าวันนี้ได้นำวัวออกมาเลี้ยงที่ทุ่งนา 10 ตัว มีวัวของตัวเอง 3 ตัว อีก 7 ตัวที่เหลือเป็นของญาติ ต่อมาช่วงเที่ยงตนได้ไปกินข้าวที่กระท่อมนา แล้วปล่อยให้วัวหากินหญ้าอยู่กลางทุ่งนาใกล้ต้นไม้ใหญ่ จนกระทั่งเวลา 13.30 น. เห็นกลุ่มก้อนเมฆตั้งเค้าเหมือนฝนจะตกลงมา จึงออกมาต้อนวัวมารวมกัน และจะต้อนไปที่กระท่อมนา
“ แต่มีลมกรรโชกมาอย่างแรง ฝนเริ่มลงเม็ด จึงรีบวิ่งเข้าไปหลบฝนที่กระท่อมนา ห่างจากต้นไม้ใหญ่ราว 100 เมตร จากนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก มีลมแรง และฟ้าผ่าเสียงดังหลายครั้ง ฝนตกอยู่ประมาณ 20 นาที เมื่อหยุดตกก็ออกมาดูวัว พบว่าฟ้าผ่าลงใส่ต้นไม้ที่วัวหลบฝนอยู่ ทำให้วัวที่อยู่ใต้ต้นไม้ตาย 6 ตัว โดยวัวตัวใหญ่ราคาตัวละ 5 หมื่นบาท ส่วนวัวตัวเล็กราคา 2 หมื่นบาท รวมมูลค่าวัวที่ถูกฟ้าผ่าตาย 270,000 บาท ”
นายสมาน บอกอีกว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และเลี้ยงวัวหารายได้เพิ่ม ไปลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา ระบุว่ามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้รับผลกระทบกับโควิด-19 แต่ไม่ได้รับสิทธิก็เสียใจอยู่แล้ว วัวมาถูกฟ้าผ่าตายพร้อมกันถึง 6 ตัว มีทั้งวัวตัวเองและญาติๆ จึงตัดสินใจจะขายซากวัวให้ชาวบ้าน ที่ต้องการนำเอาไปขายหรือกิน ยังไม่รู้ว่าจะได้ราคาซักเท่าไหร่
นางชลธิดา เมืองทา กำนัน ต.บ้านตาด กล่าวว่า ความช่วยเหลือจากทางราชการ กรณีฟ้าผ่าวัวตาย เจ้าของวัวจะต้องลงทะเบียน มีชื่อเป็นผู้เลี้ยงสัตว์ และลงบันทึกแจ้งทางอำเภอตรวจสอบว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุสาธารณภัยหรือไม่ จึงจะพิจารณาและช่วยเหลือต่อไป ช่วงนี้ตนจะแจ้งเตือนชาวบ้าน ให้ดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดี หากจะมีฝนตกลงมา ให้รีบต้อนสัตว์เลี้ยงกลับคอก หรือต้อนไปไว้ในที่ปลอดภัย อย่านำมาอยู่ใต้ต้นไม้กลางทุ่งนาโล่ง เพราะอาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้…..
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า “ต้นกระบก” เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีสรรพคุณหลากหลายรวมทั้ง “ยา” แต่เพราะมีคุณสมบัติแข็ง ตัดและแปรรูปยาก และยังมีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะจะนำสร้างบ้านเรือน จะนำมาใช้ในเครื่องมือการเกษตรมากกว่า รวมทั้งเมื่อนำมาเผาถ่านจะมีคุณภาพ ต้นกระบกจึงเหลืออยู่ตามเลือกสวนไร่นา เพื่อเป็นร่มเงาให้คนและสัตว์เลี้ยง ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ต้นกระบกจะออกลูกจนมีผลแก่และสุก วัวควายมักจะมาคอยกินลูกที่หล่น โดยเฉพาะเมื่อมีลมแรงพัดลูกหล่นมา….