รองนายกฯคุยผู้ว่าอีสานบนหนุนนิคมอุตอุดร

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่ห้องประชุมอาคาร 17 มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประชุมร่วมผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี , เลย , บึงกาฬ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบนโยบายและแนวคิดขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน การดำเนินการ TPMAP ปัญหาอุปสรรค

นายวันชัย จันทร์พร รอง ผวจ.อุดรธานี ชี้แจงว่า ในการแก้ไขปัญหาคนว่างงาน จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขอรับการสนับสนุน 1.ขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษ(SCZ) ให้ครอบคลุมนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี , เชื่อมต่อรางรถไฟเข้าถึงทางเข้านิคมอุตสาหกรรม 2.8 กม. 76.37 ล้านบาท , ก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ 12 กม. 154.25 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นศูนย์กระจายสินค้าทางราง รองรับรถไฟจากประเทศจีน และเกิดการจ้างงาน 20,000 อัตรา และรับสนับสนุนเร่งด่วนในการจัดการน้ำ 4 แผนงาน

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.เลย ชี้แจงว่า กำลังดำเนินโครงการ “ดอกไม้บานที่ภูเรือตลอดปี” ไม่มีเฉพาะฤดูหนาว ขอรับการสนับสนุนสร้างวงแหวน อ.เชียงคาน ที่มีผู้คนไปเยือนวันละ 5,000 คน , วงแหวนเลี่ยงเมืองจังหวัดเลย และปรับปรุงถนนเชื่อม จ.เพชรบูรณ์ หรือเชื่อมกับภาคเหลือ

นายสนิท ขาวสะอาด ผวจ.บึงกาฬ ชี้แจงว่า กำลังดำเนินโครงการสร้างสะพานข้ามน้ำโขง แห่งที่ 5 และการก่อสร้างประตูเปิด-ปิด ลำน้ำหลายสายไหลลงน้ำโขง เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องหลายปี สำหรับการขอรับการสนับสนุน ตัดถนนใหม่อุดรธานี-บึงกาฬ ย่นระยะการเดินทางก่อน การขอสร้างสนามบิน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ(SCZ) ในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ทำไมช้าเรื่องไปติดขัดที่ไหน สงสัยนาฬิกาประเทศไทยมี 40 ชม. ส่วนเรื่องการสร้างรางรถไฟระยะทางก็ไม่เท่าไหร่ ก็น่าจะต้องช่วยด้านภาคเอกชนได้ ให้ที่ปรึกษาบันทึกเรื่องนี้ไว้ แล้วลงไปติดตามดูกัน พร้อมถาม กนอ.ว่านิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีไปถึงไหนแล้ว

นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เป็นนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว ลงทุนโดยนักธุรกิจท้องถิ่น ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแบบจังหวัดทั่วไป ทำให้แรงดึงดูดใจคนมาลงทุ่นด้อยลงไป กนอ.เห็นด้วยการผลักดันให้เป็นศูนย์โลจิสติก เชื่อมโยงกับระบบราง ในอนาคตหากมีการเชื่อมรถไฟมาจากจีน ที่นี่จะเป็นคอนเทเนอร์ยาดที่ดี

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สอบถามด้วยว่าเรื่อง “เหมืองแร่โพแทส” เป็นอย่างไร ตอนนี่เห็นเรื่องไปกองอยู่บนโต๊ะตนเอง ได้รับคำชี้แจงว่า ขั้นนตอนในพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ส่งไปที่ส่วนกลาง อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ โดยคณะกรรมการได้เรียกเอกสารเพิ่มเติม ทั้งจากภาครัฐ และตัวผู้รับสัมปทาน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จ.อุดรธานีกับ จ.บึงกาฬจะมีความคล้ายกัน ขณะที่ จ.เลย มีความแตกต่างไป ส่วนตัวอยากเห็นกลุ่มจังหวัดนี้ ที่มีอุดรธานีเป็นพี่ใหญ่ มาพูดคุยกับกำหนดยุทธศาสตร์ พื้นที่ไหนจะเหมาะทำอะไร ทำอะไรจะต้องไม่ซ้ำกัน ใครอ่อนใครแข็งอะไร แบ่งหน้าที่กันทำ จะได้สนับสนุนกัน บูรณาการกันได้หรือไม่

“ อุดรธานีมีความพร้อมด้านการค้าการลงทุน เมื่อนักลงทุนมาถึงแล้ว คุยครั้งเดียวได้ข้อมูลทุกจังหวัด จ.เลยเหมาะเรื่องการอนุรักษ์ก็ทำไป แต่ให้แตกต่างจากพื้นที่อื่น ให้อันซีนสงบร่มเย็น กลับไปแล้วก็ยังผูกพัน คนขายล็อตเอตอรี่ 100,000 คน หากความนิยมลดจะต้องเตรียมรองรับ บึงกาฬเป็นจังหวัดใหม่อาย 9 ปี การปลูกยางอย่างเดียว เมื่อราคายางตกจะมีปัญหา ”