กรณีผู้ที่ใช้ Tik Tok ชื่อ วู๊ดดี้ หมวกทอง ได้โพสต์คลิป หญิงรูปร่างเล็ก ทั้งร้อง ทั้งเต้น เพลง คาเฟอีน พร้อมกับเขียนข้อความว่า “เจ้หลอด..ตัวตึง สภ.เมืองอุดร บอกแกไว้หากถึงหมื่นวิวจะให้ร้อยหนึ่ง555#ที่นี้อุดรธานี #ตํารวจบ้านๆ #ชีวิตตํารวจน้อย คาเฟอีน (ท่อน คิดสิ คิดสิ) – หญิงลี ศรีจุมพล โดยมีคนเข้ามาชม 1.7 ล้านวิว ภายใน 3 วัน
ต่อมาวันที่ 11 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.หลอด หรือเจ้หลอด นามสมมติ อายุ 55 ปี ชาวชุมชนทุ่งมหาเมฆ เขตเทศบาลนครอุดรธานี หรือตัวตึงเมืองอุดร ผู้ที่ทั้งร้องทั้งเต้นในคลิป เล่าว่า ตนเป็นคนตัวเล็กมาตั้งแต่กำเนิด ชาวอีสานจะเรียกว่าคนหลอด มีความสูง 120 ซม. หนัก 27 กิโลกรัม พิการหูตึง สาเหตุที่ตนตัวเล็กเพราะแม่ที่แท้จริงตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ จึงกินยาขับ แต่ปรากฏว่าตนไม่ออก เมื่อคลอดออกมาแม่ก็นำตนมาให้พ่อแม่ปัจจุบัน ซึ่งพ่อและแม่ที่รับเลี้ยงตนก็มีลูกอยู่แล้ว 6 คน เพิ่มตนก็เป็น 7 คน
พ่อแม่เลี้ยงตนเหมือนกับลูกตัวเองทุกอย่าง แต่ก็เล่าให้เรื่องตนให้ฟังทุกอย่างไม่ปิดบัง แต่ตนก็รักพ่อแม่ที่เลี้ยงตนมา พ่อเสียชีวิตก่อน ตนก็ทำงานเก็บของเก่าขาย ดูแลแม่ซึ่งต่อมาแม่ก็เสียชีวิต ส่วนพี่น้องก็เสียชีวิตไป 1 คน เหลือ 6 คน ต่างก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัว ทำให้ตนอาศัยอยู่บ้านตามลำพัง ซึ่งตนก็เคยแต่งงานมีครอบครัวขณะมีอายุ 18 ปี และมีลูกชาย 1 คน คลอดออกตัวเท่าขวดโซดา เลี้ยงได้ 9 วันก็เสียชีวิต ส่วนสามีก็แยกทางกันไป ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
น.ส.หลอด เล่าว่า ตนเป็นคนชอบร้องเพลง เคยร้องเพลงที่ร้านอาหารเพชรอีสาน ร้านอาหารสองศรี ไม่มีเงินเดือน มีแต่ทริปคืนละ 200-300 บาท ต่อมามีคนชวนตนไปร้องเพลงที่ร้านอาหารในกรุงเทพฯ แต่น้องสาวได้ไปตามตนกลับบ้านเพราะเกรงว่าจะถูกหลอกไปขาย ตนก็หันมาเก็บของเก่าขายเลี้ยงชีพ หรือซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองมาขาย ซื้อลำโพงมาขาย โดยจะปั่นจักรยานพร้อมกับเปิดลำโพง ร้องเพลงไปตามถนน เสร็จแล้วก็เสนอขาย บางครั้งก็เช่าพระมาปล่อยต่อเอากำไร ดีกว่าไปลักขโมยอับอายผู้คน และอาศัยเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 800 บาทประทังชีวิต
ส่วนสาเหตุที่ชอบเข้ามาเล่นในโรงพักเมืองอุดรธานี เพราะตัวคนเดียว แถมยังตัวเล็กหลอด เกรงว่าจะมีคนรังแก ต้องมาพึ่งพาตำรวจ ตนรู้จักตำรวจในโรงพักเมืองอุดรธานีทุกคน ถ้ามีสินค้ามาเสนอขายตำรวจก็ซื้อ แต่ถ้าไม่มีสินค้าตนขอเงิน 20 บาทตำรวจก็ให้ มีแต่คนใจดี มีตำรวจชื่อ ร.ต.อ.สุนทร ชุดชนบท รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ใจดีมาก พอเห็นหน้าตนที่โรงพักจะให้เงินตลอด ให้ทุกครั้ง ตั้งแต่ 100 -1,000 บาท
“ผู้กองบอกว่าสงสาร ให้ไปซื้อข้าวกิน ซึ่งตนก็จะเดินเล่นไปมาอยู่ในโรงพัก และไม่เคยถูกรังแก หรือรังเกียจแต่อย่างใด ตนอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้เพราะมันเหงา ถึงวันนี้ตนจะรู้จักแม่ที่ให้กำเนิดก็ได้ หรือไม่รู้จักก็ได้ไม่สำคัญแล้ว ส่วนคลิปร้องเพลงใน Tik Tok ตนเดินผ่านแผนกสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจได้เปิดเพลงในรถ ตนจึงร้องและเต้นตามเพลง โดยมีตำรวจถ่ายคลิปไว้ ไม่รู้ว่าจะเอาไปลง Tik Tok” จากนั้นเจ้หลอดก็ปั้นจักรยานคู่ชีพร้องเพลงไปนั่งเล่นพูดคุยหยอกล้อกับตำรวจสายตรวจเมืองอุดรธานี สร้างความสนุกสานให้กับตำรวจ
ส่วน สิบตำรวจเอก ศราวุฒิ อุปโคตร ผบ.หมู่ สส.สภ.เมืองอุดรธานี เล่าว่า ปกติเจ้หลอดจะร้องเพลงมาที่ชุดสืบสวนประจำ ส่วนตัวตนคิดว่าเจ้หลอดร้องเพลงเพราะ เสียงดี วันที่ถ่ายคลิปเห็นเจ้หลอดเดินมาและเต้นมาด้วย คิดว่าน่ารักดี อารมณ์ดี เลยขอถ่ายคลิป เสร็จแล้วเจ้หลอดขอเงิน 100 บาทไปกินข้าว ตนนำคลิปเอาไปลง Tik Tok ช่องของตัวเอง และสัญญากับเจ้หลอดว่าถ้ามีคนดู 1 หมื่นวิวจะให้เงิน 100 บาท พอกลับบ้านปิดโทรศัพท์ตื่นเช้ามาเปิดโทรศัพท์ก็ตกใจ เพราะมีข้อความเข้ามาเต็ม เปิด Tik Tok เจ้หลอดร้องเพลง ก็พบว่ามีคนเข้าชม 7 แสนวิวแล้ว ผ่านมา 3 วันมีคนดู 1.7 ล้านวิว
“พอมีคนเข้ามาชมมากตนก็รู้สึกตกใจ รู้สึกเซอร์ไพรส์ มีผู้ชมเข้ามาเม้นต์ ชมว่าเต้นดี เป็นตัวตึงเมืองอุดรคนใหม่ สู้กับฝั่งนั้นได้เลย อยากฝากถึงเจ้หลอดให้ดูแลตัวเอง เพราะเจ้หลอดไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร่ อยากให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี “