เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 มกราคม 2563 ที่ลานพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ด้านหนองประจักษ์ศิลปาคม ทน.อุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายก ทน.อุดรธานี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และนางภาวนา ประจิตต์ ผอ.ททท. จ.อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวงาน “วันที่ระลึกการก่อตั้งเมืองอุดรธานี ลุเข้าสู่ปีที่ 127 และมหกรรมการแสดงพลุ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอุดรธานี ระหว่างวันที่ 17-18 มกราคมที่จะถึงนี้
ชาวอุดรธานีได้ถือเอาวันที่ 18 มกราคมของทุกปี ระลึกถึงพลตรีพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม หรือกรมหลวงประจักษ์ แม่ทัพฝ่ายเหนือในขณะนั้น จากกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส ได้นำกองทหารและไพร่พล ถอยจากหนองคายมาถึงบ้านหมากแข้ง เมื่อ 18 มกราคม ร.ศ.112 และตัดสินใจตั้งกองทัพที่นี่ ด้วยพระปรีชาเลือกชัยภูมิที่เหมาะสม เมืองอุดรธานีจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง เป็นศูนย์กลางภาคอีสานตอนบน และมีเป้าหมายเป็น “ฮับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง”
ด้วยพลังแห่งความศรัทธาต่อ “กรมหลวงประจักษ์” จึงจัดบวงสรวงพระอนุสาวรีย์ขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะการรำบวงสรวง ที่เริ่มต้นจากผู้รำหลักร้อย มาเป็นผู้รำหลายหมื่นคน ด้วยการเชิญชวนชาวอุดรธานีทุกอำเภอ มาร่วมรำด้วยความสมัครใจ จนในปี 2555 ถูกบันทึกสถิติเวิรด์ เรคคอร์ด รำไทยจำนวนมากที่สุดในโลก และยังรักษาสถิตินี้อยู่ และก่อนรำก็จะมีการซ้อม โดย ทน.อุดรธานี จัดที่หนองประจักษ์ และสนามกีฬา ทน.อุดรธานี วันที่ 14-16 มกราคม ยังมีเอกชนนัดหมายซ้อมเป็นกลุ่มเล็กและใหญ่ด้วย
ในปีนี้จะจัดงานวันที่ 17-18 มกราคม โดยวันแรกช่วงบ่าย จัดขบวนอันเชิญศาสตราวุธ 3 เล่ม จากพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ไปยังสนามทุ่งศรีเมือง และอัญเชิญต่อไปยังพระอนุสาวรีย์ฯ เพื่อนำขึ้นประดิษฐานบนแท่น ต่อด้วยการรำบวงสรวงชุดเล็ก ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่รับศาสตราวุธของพระองค์มา โดยเย็นวันแรกก็จะมีงานที่หน้าพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ในบรรยากาศย้อนยุครัชการที่ 5 ด้วยกิจกรรมย้อมสีอาคารด้วยแสง ศิลปินมีชื่อเสียง และปี่สก็อต
วันต่อมาจะปิดถนนเข้าพระอนุสาวรีย์ ตั้งแต่ 04.00 น. เพื่อประกอบพิธีอย่างต่อเนื่อง ตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาทุกปี และปิดท้ายด้วยการรำบวงสรวง โดยในปีนี้ให้ความสำคัญเรื่องเวลา จะต้องเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อให้ชาวอุดรธานีหลายหมื่นคน ได้รำพร้อมกันได้ในเวลา 09.09 น. ขณะในงานเฉลิมฉลองช่วงเย็น เป็นมหกรรมพลุที่ยิ่งใหญ่ ที่หนองประจักษ์ศิลปาคม ทั้งพลุอยู่บนท้องฟ้า และแสงสะท้อนจากท้องน้ำ ด้วยพลุ 4 องค์ ในรูปแบบของพลุไทย พลุมาเลเซีย และพลุจีน
การจัดงานบวงสรวง และเฉลิมฉลองในครั้งนี้ นอกจากจะระลึกถึงพลตรีพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ด้วยพระปรีชาเลือกตั้งทัพที่อุดรธานี ยังจะเป็นการประกาศศักยภาพอุดรธานี ว่ามีความพร้อมในการจัดงาน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว และผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี พร้อมถูกยกระดับเป็น “เมืองหลักท่องเที่ยว” ตามเป้าหมายของอุดรธานี….