บ้านห้วยสำราญ ม.9 บ้านห้วยเจริญ ม.16 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ มีพื้นที่ปลูกมากกว่า 645 ไร่ ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานแห่งหนึ่ง มาวันนี้เกษตรกรทั้งหมดตอบรับ เป็นเกษตรแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับ ยกระดับผลิตไม้ดอกป้อนตลาดตลอดปี และเปิดสวนดอกไม้รับนักท่องเที่ยว ปีแรกในช่วงต้นฤดูหนาวที่จะถึงนี้
ช่วงก่อนกลางเดือนสิงหาคม 2561 นายฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ เกษตร จ.อุดรธานี นำสื่อมวลชนอุดรธานี สัญจรไปที่หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ “บ้านห้วยสำราญ-บ้านห้วยเจริญ” ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีเพียง 10 กม.เศษ ไปตามถนนอุดรธานี-หนองบัวลำภู เดิมเป็นชุมชนเกษตรกรรมน้ำฝน ทำไร่ ไถนา ทำสวน ฤดูแล้งมีแรงงานก็อพยพไปต่างถิ่น ส่วนหนึ่งเลือกไปขายแรงงานถาวร ในปี 2523 มีเกษตรกรนำดอกเบญจมาศ สายพันธ์มูเซอ (ดอกเดี่ยว) มาปลูกสร้างรายได้ ทำให้มีเกษตรกรผู้สนใจปลูกบ้าง แต่เป็นแบบต่างคนต่างปลูก ผลผลิตคุณภาพยังไม่ดีเท่าที่ควร
สนง.เกษตรอำเภอเมือง ร่วมกับนิคมสร้างตนเองฯ เข้ามาส่งเสริมด้านวิชาการ จัดหาสายพันธุ์ดี สายพันธุ์ต่างประเทศ และศึกษาดูงาน ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ก็พัฒนาต่อเนื่อง เวลาผ่านไปกว่า 38 ปี ที่นี่กลายเป็นแหล่งปลูกไม้ดอก มะลิร้อยมาลัย , มาลัยดอกพุด , ดอกดาวเรือง , กุหลาบร้อยมาลัย , ดอกคัตเตอร์ , ไม้ตัดใบ และไม้อื่นๆ ป้อนตลาดตลอดทั้งปี ส่วนดอกเบญจมาศ 12 สายพันธุ์ จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดช่วง พ.ย.-เม.ย. ส่งขายจังหวัดในอีสาน , สปป.ลาว และปากคลองตลาด รวมมากกว่าปีละ 350 ตัน
นายฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ เกษตร จ.อุดรธานี กล่าวว่า ช่วงเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ได้มีส่วนเข้ามาส่งเสริมปลูกดอกไม้ ที่บ้านห้วยเจริญ-ห้วยสำราญ ได้สัมผัสการพัฒนาใกล้ชิด เห็นแรงงานไปทำงานต่างถิ่น กลับมาปลูกดอกไม้ที่บ้าน เห็นผลผลิตมีคุณภาพถูกสั่งซื้อ และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญ เมื่อกลุ่มยุวเกษตรกรบ้านห้วยสำราญ ได้รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศ เข้ารับพระราชทานรางวัลในวันพืชมงคล ปี 2544 ไม้ดอกที่นี่เติบโตมากตอนนั้น
“ ที่นี่เป็นชุมชนที่สะสมวิถีชีวิต เกื้อหนุนในการปลูกไม้ดอก-ไม้ประดับ ให้สามารถผลิตไม้ดอก ไม้ใบ และไม้ต่างๆ แล้วต่อยอดให้มีการ ร้อยมาลัย , มาลัยกร , ช่อดอกไม้ และดอกไม้-มาลัยพิธีต่างๆ ตอบสนองสังคมวิถีพุทธ และสังคมที่เปลี่ยนแปลง ตลอดจนการเปลี่ยนตัวเองเป็นนักขาย โดยการรวมตัวเป็นเกษตรแปลงใหญ่ จะเป็นการยกระดับการผลิต ให้สามารถป้อนสู่ตลาดทั้งปี ด้วยคุณภาพสินค้าปลอดภัย หรือ จีเอ็มพี.”
นายบุญแถม ยอดแก้ว ประธานหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับห้วยสำราย-ห้วยเจริญ กล่าวว่า ยังมีเกษตรกรที่ปลูกดอกไม้ ไม่ได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มบางส่วน โครงการเกษตรแปลงใหญ่ จะทำให้เกษตรกรมาช่วยกันมากขึ้น โดยกิจกรรมหลักๆที่จะทำกันก็มี การทำเกษตรปลอดภัย , การปลูกไม้ตัดดอกโดยเฉพาะเบญจมาศตลอดทั้งปี และการสร้างแปลงดอกไม้เพื่อการท่องเที่ยวบริเวณอ่างฯลำปลาค้าว ด้านหลังโรงเรียนบ้านห้วยสำราญ
“ ปกติเกษตรกรจะปลูกดอกเบญจมาศ เพื่อตัดดอกขายเฉพาะในเดือน พ.ย.-เม.ย. ขณะนี้เริ่มทดลองปลูกให้ออกดอกก่อน โดยการสร้างหลังคามุงพลาสติกใส ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ไปคลุมแปลงปลูกดอกเบญจมาศ ในขณะนี้หรือช่วงฤดูฝน ตอนนี้ต้นเบญจมาศเริ่มมีตาดอกแล้ว เป้าหมายคือการปลูกตลอดทั้งปี โดยหลังคาจะมีอายุใช้งานราว 7 ปี ส่วนแปลงใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว กำลังทยอยปลูกไปบ้างแล้ว ซึ่งแปลงนี้จะไม่ตัดดอกขาย ”
นายหวังชัย แก้วบับภา อดีตผู้นำกลุ่มยุวชนเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ กล่าวว่า เยาวชนยุคที่ได้รางวัลอายุมากขึ้น เราเห็นการเติบโตการปลูกไม้ดอกที่นี่ ตั้งแต่วันแรกๆมาถึงวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก การที่ภาครัฐเข้ามาสนับสนุน จึงเชื่อว่าการปลูกเบญจมาศ ตัดดอกขายทั้งปีจะเป็นไปได้ เกษตรกรจะต้องช่วยกันครั้งใหญ่ นำเอาวิทยาการใหม่ๆมาปรับใช้ ให้เกิดเป็นวิธีมาตรฐานของที่นี่
อดีตที่นี่…..มีเพียงลำธารเล็กๆไหลผ่าน พอถึงฤดูแล้งน้ำก็เหือดแห้งไป ชาวบ้านต้องกั้นลำธารเป็นช่วงๆ ตลอดเส้นทางไหลผ่าน เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ จนเกิดเป็น “หนองกกดู” จากนั้นจึงเกิดมีสระน้ำไร่นา บ่อน้ำบาดาล มาหล่อเลี้ยงชีวิตคน-ดอกไม้ที่นี่ สำหรับ“อ่างเก็บน้ำลำปลาค้าว” น้ำ 3.9 แสน ลบม. มีไว้หล่อเลี้ยงพื้นที่โดยรอบ และสำรองในฤดูแล้งมากๆ
วันนี้ที่นี่….ชาวบ้านกำลังร่วมกับขับเคลื่อนครั้งใหญ่….อีกครั้ง