วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Google search engine
หน้าแรกสังคมโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สขอ 4 เดือนแก้เหม็น

โรงไฟฟ้าไบโอแก๊สขอ 4 เดือนแก้เหม็น

ผ่านมาแล้วเกือบ 1 เดือน ที่ชาวบ้านหนองเขื่อนฟ้า ม.14 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เดินสายร้องเรียนให้แก้ไขปัญหา กลิ่น-เสียง-น้ำเสีย ของโรงไฟฟ้าชีวภาพ ซึ่งมีหลายหน่วยงานลงพื้นที่แล้ว รวมทั้งการเดินทางมาของ รมว.พลังงาน และมีนัดหมายชี้แจง ชาวบ้านพอใจในระดับหนึ่ง และยังต้องรอผลการแก้ไขไปถึงก่อนสงกรานต์

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน หน.สำนักงาน จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมหารือแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน โรงงานไฟฟ้าชีวภาพของ บ.เรืองสิริธรรม จก. เลขที่ 133 ม.14 บ.หนองเขื่อนฟ้า ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี น.ส.รัชดาพร เมืองเก่า นิติกรชำนาญการพิเศษ ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนราษฎร บ.หนองเขื่อนฟ้า (คุ้มใต้) เข้าร่วมประชุม

นายสมปอง สนิทกูล ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า ราษฎร บ.หนองเขื่อนฟ้า (คุ้มใต้) 60 ครัวเรือน มากกว่า 300 คน ได้รับความเดือดร้อนจากโรงไฟฟ้าฯ ที่ตั้งอยู่ห่างชุมชนเพียง 100 ม. มาตั้งแต่ปี 2561 จากกลิ่นเหม็นรุนแรงถึงอาเจียน-เสียงดัง-น้ำเสียไหลออกนอกโรงงาน เคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน จนมีคำสั่งของ ทต.บ้านตาด ให้แก้ไขแต่ก็ไม่เป็นผล เวลาผ่านมากว่า 5 ปี ชาวบ้านก็ยังเดือดร้อนอยู่ ช่วงฝนที่ผ่านมารุนแรงมาก จนต้องมาร้องเรียนอีกครั้ง

“ โรงงานมาบอกชาวบ้านว่า จะใช้หญ้าเนเปียเป็นวัตถุดิบ ชาวบ้านปลูกมาขายโรงงานได้ แต่พอมาตั้งโรงงานแล้ว กลับเอากากมันเน่ามาใช้แทน และยังมีการนำน้ำส่ามาใช้ในโรงงานด้วย น่าจะเป็นสาเหตุของกลิ่น พอทางราชการมาตรวจก็ไม่เอาเข้ามา สั่งให้ลูกน้องทำความสะอาด แล้วตัดหญ้าเนเปียนในโรงงาน มาโชว์ให้เข้าใจว่าใช้หญ้าเนเปีย หลังจากมีการร้องเรียนครั้งนี้ ทำให้มีการตรวจโรงงานกลิ่นก็ลดลง แต่ยังมีกลิ่นเหม็นทุกวันมากบ้างน้อยบ้าง ”

น.ส.วรัมพร เสงี่ยม ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า มีรถบรรทุกพ่วงของเหลว เข้าออกโรงงานเกือบทุกวัน การตรวจโรงงานครั้งแรก ได้รับคำตอบว่าเป็น “กากน้ำตาล” แต่จากที่ไปถามโชเฟอร์รถบรรทุก และถามคนที่พบเห็น มีหลักฐานเป็นเทปเสียงระบุว่า ของเหลวที่ขนมาคือ “น้ำส่า” เอามาจากโรงงานที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และขนมาที่นี่เป็นประจำ ซึ่งคราบน้ำส่ายังพบเห็นได้ อยู่ผิวถนนทางเข้าโรงงาน มีกลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นจากโรงงาน

นายเชาว์วัฒน์ วีระพันธุ์ วิศวกรชำนาญการพิเศษ สนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี กล่าวว่า พื้นที่ของ บ.เรืองสิริธรรม จก. มีประกอบกิจการ 3 โรงงาน คือ โซล่าฟาร์ม 0.9 เม็กกะวัตต์ , โรงไฟฟ้าแก๊สชีวภาพ 0.9 เม็กกะวัตต์ ขายไฟฟ้าให้ กฟภ. และโรงงานผลิตแก๊สชีวภาพจากหญ้าเนเปีย ที่ใช้วัตถุดิบอื่นได้ด้วย อาทิ ต้นข้าวโพด , ต้นอ้อย , มูลวัว-ควาย ได้รับอนุญาตในปี 2559 และ 2561 โดยผ่านการประชาพิจารณ์ สำหรับ “น้ำส่า” และ “กากน้ำตาล” ไม่ได้อนุญาต

“ ร่วมกับ สวล.9 , ทต.บ้านตาด และผู้ร้อง เข้าตรวจสอบ 22 พ.ย.66 และได้ออกคำสั่งแก้ไข 1.กลิ่นเหม็นจากการระบายแก๊ส ที่มีแรงดันเกินออกมาเผา ต้องควบคุมในระดับเหมาะสม 2.กลิ่นจากกองเก็บวัตถุดิบนอกอาคาร , 3.กลิ่นจากบ่อบำบัดน้ำเสีย 3 บ่อ ต้องปรับปรุงให้ถูกต้อง , 4. กลิ่นเกิดจากถังตกตะกอน ต้องทำมาตรการป้องกันกลิ่น ให้แล้วเสร็จภายใน 8 ม.ค.67 โดยจะตรวจติดตามก่อน 22 ธ.ค.66 ”

นายเสถียร ดวงจำปา พลังงาน จ.อุดรธานี กล่าวว่า ร่วมกับ สนง.คกก.กำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เขต 4 ตรวจสอบ 29 พ.ย.66 กับหน่วยงานในพื้นที่ มีคำสั่งให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน แก้ไข ติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามหลักปฏิบัติ (CoP) คือ พบไม่มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศในบรรยากาศและในปล่องระบาย , ไม่มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้ง และน้ำผิวดิน และไม่มีการตรวจวัดเสียงบริเวณริมรั้ว ในช่วง 2 ปีล่าสุด โดยให้ทำรายงานตามระเบียบใหม่ 2565

“ นอกจากนี้มีคำสั่งให้แก้ไข โดยชี้แจงข้อมูลและแผนดำเนินการแก้ไขให้ กกพ.4 ภายใน 15 วัน (ครบ 12 ธ.ค.66) ซึ่งโรงงานได้แจ้งแผนมา (6 ธ.ค.66) 1.ปรับปรุงบ่อลากูนให้มีความมั่นคงแข็งแรงด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก จะต้องขออนุญาตจาก ทต.บ้านตาด , 2. ปิดถังบำบัดบ่อตกตะกอนบ่อสุดท้าย ด้วยผ้าใบ HDPE จะแล้วเสร็จภายใน 29 มีนาคม 2567 และ 3. ปรับปรุงอาคารบ่อลำเลียง โดยอุดรอยรั่วอาคารให้มิดชิด แผนงานแล้วเสร็จ 29 ธันวาคม 2566 และเมื่อ 3 ธ.ค.2566 รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ลงตรวจพื้นที่สั่งให้รายงานผลการแก้ไขต่อเนื่อง ”

นายสายัณห์ หมีแก้ว นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ สนง.สิ่งแวดล้อม ภาค 9 กล่าวว่า มีความเป็นห่วงเป็นใยในคำสั่ง 2 ประเด็น 1.การแก้ไขบ่อน้ำเสียให้เสร็จใน 8 ม.ค.2567 ไม่น่าจะดำเนินการได้ทัน เพราะโรงงานยังคงเดินเครื่อง และต้องตากบ่อให้แห้งก่อนเอาตะกอนออก , 2.การปิดอาคารลำเลียงให้มิดชิด เพื่อไม่ให้กลิ่นหลุดรอดออกไป จะสงผลต่อพนักงานลูกจ้าง และคนขับรถบรรทุก อาจจะได้รับอันตรายได้ เช่นเดียวกับผู้แทนสาธารณสุข จ.อุดรธานี ห่วงใยสุขภาพแบบปัจจุบันทันด่วน และระยะยาว จะต้องหามาตรการป้องกันด้วย

นายวชิรวิชญ์ ภาวะชาติ ปลัด อบต.บ้านตาด อ.เมือง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทต.บ้านตาด มีคำสั่งให้แก้ไขตาม พรบ.เหตุเดือดร้อนรำคาญ ตลอดจนให้คำแนะนำ ตั้งแต่มีการร้องเรียนครั้งแรก ปี 2561 โรงงานได้ทำการแก้ไขไปหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่ครบถ้วนทั้งหมด อาทิ การขอให้ล้อมรั้วแนวเขตให้ชัดเจน ซึ่ง ทต.บ้านตาด มีไม่อำนาจบังคับ ขณะที่โรงงานขอขยายโรงงาน นำตะกอนจากการผลิตมาทำปุ๋ย ทต.บ้านตาด ได้เลือกรับฟังความคิดเห็น แทนการปิดประกาศ แต่ก็มีผู้มากรอบแบบสอบถาม 93 ราย เห็นด้วย 92 ราย คัดค้าน 1 ราย โดยคนเห็นด้วยไม่ได้อยู่ใน 60 ครอบครัวที่เดือดร้อน เมื่อมีการร้องเรียนจึงต้องทบทวนใหม่

นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน หน.สำนักงาน จ.อุดรธานี ได้สอบถามผู้ร้องเรียนก่อนสรุปว่า การแก้ไขครั้งนี้เข้มข้นมากขึ้น รมว.ให้ความสนใจลงพื้นที่เอง ผู้ว่าฯก็มีนโยบายชัดเจนสั่งการลงมาแล้ว เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ลงพื้นที่ มีข้อสั่งการให้แก้ไขหลายเครื่อง ผู้ร้องฯก็พึงพอใจในการทำงาน ซึ่งจะต้องรอการแก้ไขของโรงงาน ว่าจะดำเนินการได้ผลหรือไม่ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะลงไปติดตามอีกครั้ง 22 ธ.ค.2566 หากยังไม่สามารถแก้ไขได้ ก็จะมีมาตรการเข้มขึ้นไปอีก หวังว่าจะแก้ปัญหาได้ ส่วนเรื่องการขอเปิดโรงงานปุ๋ยชีวภาพเพิ่ม คงต้องชะลอเรื่องเอาไว้ก่อน จนกว่าจะแก้ปัญหาเรื่องเดิมได้

น.ส.วรัมพร เสงี่ยม ผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า หลังจากฟังคำชี้แจ้งรู้สึกสบายใจขึ้นระดับหนึ่ง เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานกว่า 5 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นพ่อจนมาถึงรุ่นตัวเอง อยากให้ปัญหามันจบลงไป โดยเมื่อ 5 ปีก่อนก็ได้มีการร้องเรียนไปเกือบทุกหน่วยงาน พอหน่วยงานลงพื้นที่มาก็ดีขึ้น แต่พอหน่วยงานออกก็เปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งรอบนี้คาดหวังว่าจะได้รับการแก้ไข และไม่กลับมาเหมือนเดิม เพราะเรื่องไปถึงรัฐมนตรี และได้ลงพื้นที่มาช่วยเหลือชาวบ้าน โดยหลังจากร้องเรียนบางวันก็ยังมีกลิ่น และก็มีเสียงมารบกวนอยู่เกือบทุกวันครั้งละ 5-10 นาที ซึ่งระดับกลิ่นไม่ได้แรงเท่าเดิม แต่ก็ยังมีมาเหมือนเดิม

รอบโรงงานส่วนมากก็จะเป็นทุ่งนา มีปลูกหญ้าเนเปียอยู่ในโรงงาน ชาวบ้านยังไม่เห็นมีการปลูกมาส่งให้โรงงาน เพราะส่วนมากหาเช้ากินค่ำ ไม่มีที่ดินของตัวเอง ซึ่งในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ที่หน่วยงานจะลงพื้นที่ไปตรวจอีกครั้ง ก็คาดว่าโรงงานคงจะเตรียมตัวเป็นอย่างดี โดยปัญหาก็คงยังมีอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดตรงไหนของโรงงานบาง คิดว่าหน่วยงานมาช่วยเกินความคาดหมาย ยิ่งรัฐมนตรีลงพื้นที่มาช่วยแก้ไขด้วย เราก็ขอแค่ว่าอยากมีอากาศที่ดีในทุกวัน คนป่วยก็จะได้มีอากาศที่บริสุทธิ์หายใจ….

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments