ชาวบ้านรวมตัวไล่ ผอ.โรงเรียน แชมป์วอลเลย์บอลวิทยุการบินอีสาน กล่าวหาทุจริตเงินนักเรียน-เงินกองทุน เคยร้องเรียนแล้วแต่มีปัญหา ชาวบ้านถูกร้องขอให้ไกล่เกลี่ย หนักเข้าเอารายชื่อผู้ร้องมาข่มขู่ นอภ.-ผกก.-สพป. จับเขาคุยตัวแทนชาวบ้าน อยู่ระหว่างสอบสวน และ ผอ.ขอย้ายตัวเอง ขณะชาวบ้านยืนยันแค่ขอเงินคืนและย้าย
เวลา 10.00 น.วันที่ 9 กันยายน 2562 ที่หน้าโรงเรียนชุมชนกุดค้า อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี (อันดับ 4 วอลเลย์บอลชาย วิทยุการบินมินิวอลเลย์บอล ปี 60) ชาวบ้านกว่า 30 คน นำโดยนางเต็มใจ วงศ์พิมพ์ศร อายุ 47 ปี มาประท้วงขับไล่นายสุรศักดิ์ กุลวงศ์ ผอ.โรงเรียนฯ ด้วยการนำป้ายข้อความกล่าวหาทุจริต ในช่วงที่บริหารตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อาทิ หนูอยากเรียน เอาดินสอ สมุด หนูคืนมา , ไม่เอา ผอ.ขี้โกง ออกไป , เอาเงินกองทุนคืนมา และไม่สงสารหนูเหรอคะ เอาเงินกองทุนไป 300,000 พร้อมตะโกนขับไล่ โดยไม่มีครู อาจารย์ ออกมาพบ
นางเต็มใจฯ และแกนนำชาวบ้าน ระบุว่า โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีนี้มีนักเรียนอยู่ 216 คน ตั้งแต่ ผอ.คนนี้มารับตำแหน่ง มีความไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง ที่ชาวบ้านทวงถามก็มี ไม่นำงบประมาณที่รัฐจัดสรรมา จัดหาอุปกรณ์การเรียนภาคเรียนที่ 2 , ไม่จัดให้นักเรียนไปทัศนะศึกษา , ไม่นำเงินที่ผู้ปกครองจ่ายประกันอุบัติเหตุ ไปส่งให้บริษัทฯคนละ 150 บาท มารู้ภายหลังเมื่อนักเรียนประสบอุบัติเหตุ จึงมีการตรวจสอบเงินกองทุนโรงเรียน พบว่าแอบเบิกเงินกองทุนไปด้วย
“ เงินกองทุนเริ่มจากครูสีทัน วิเชียนเครือ อดีตครูใหญ่ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว มอบเงิน 100,000 บาทเป็นการเริ่มต้น จากนั้นครู ผู้ปกครอง ร่วมกันทำผ้าป่ากันมาต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีเงินอยู่มากกว่า 500,000 บาท เอาไปฝากไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุดรธานี เอาดอกผลมาใช้เป็นประโยชน์ทางการศึกษา เมื่อเกิดเรื่องกรรมการกองทุนฯ ได้ขอตรวจสอบก็พบว่า เงินถูกเบิกออกไป 300,000 กว่าบาท กรรมการจึงไปแจ้งความไว้ “
ชาวบ้าน ระบุต่อว่า ชาวบ้านได้ล่ารายชื่อไปร้องเรียน ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งฝน และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี ก็มี ผอ.โรงเรียนในกลุ่มฯ มาประชุมเพื่อไกล่เกลี่ย ในที่ประชุม ผอ.ก็ยอมรับ ชาวบ้านยืนยันขอเพียง เงินเด็ก และกองทุนคืน จนวันนี้เวลาผ่านมากกว่า 2 เดือนไม่คืบหน้า รับแจ้งจาก สพป.อุดรธานี 3 จะมาพบชาวบ้านหลายครั้ง แต่ก็เลื่อนนัดทุกครั้ง ระหว่างนั้นเอกสารรายชื่อชาวบ้านร้องเรียน ถูกนำมาใช้ข่มขู่ชาวบ้านถึงบ้าน ให้ไปถอนการร้องเรียน ไม่เช่นนั้นจะถูกฟ้องร้อง มีชาวบ้านเซ็นถอนร้องเรียนไป 3 ราย
ต่อมานายธนสาร เจริญสุข นายอำเภอทุ่งฝน , พ.ต.อ.จักรทิพย์ กุลพฤกษี ผกก.สภ.ทุ่งฝน , นายประเจน ปาประลิต รอง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 3 ทะยอยเดินทางมารับทราบความประสงค์ จึงเชิญตัวแทนชาวบ้าน 3 คน เข้าร่วมประชุมภายในโรงเรียน โดยนายธนสารฯ นอภ. และ พ.ต.อ.จักรทิพย์ฯ ผกก. เป็นคนกลางและสักขีพยาน ให้ชาวบ้านยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ รอง สพป.อุดรธานี 3 พร้อมรับฟังคำชี้แจง โดยนายสุรศักดิ์ กุลวงศ์ ผอ.โรงเรียนฯ ก็ร่วมรับฟัง แต่ขอชี้แจงต่อกรรมการสอบสวน
ในที่ประชุม นายธนสารฯ นอภ.ทุ่งฝน กล่าวว่า อำเภอได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และได้แจ้งให้หน่วยงานที่ดูแล คือ สพป.อุดรธานี 3 รับไปดำเนินการ ยังไม่ได้รับรายงาน
ผลของต้นสังกัด ซึ่งก็จะมีการทวงถามตามขั้นตอน ส่วนเอกสารรายชื่อชาวบ้าน ที่เข้าชื่อร้องเรียนส่งให้อำเภอ และหลุดออกไปบุคคลอื่น ทางอำเภอจะทำการตรวจสอบ ว่ารายชื่อหลุดออกไปในช่วงใด
นายประเจน ปาประลิต รอง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 3 กล่าวว่า เมื่อรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ประกอบด้วยผู้บริหารโรงเรียนในเขต , ครูที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยในวันที่ 11 กันยายนนี้ จะเดินทางมาสอบสวนที่โรงเรียนฯ พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย สำหรับนายสุรศักดิ์ฯ ผอ.โรงเรียนฯ ได้ทำบันทึกมาถึง สพป.อุดรธานี 3 ขอย้ายตัวเองออกจากโรงเรียน ไปยังโรงเรียนอื่นในพื้นที่ อ.ทุ่งฝน
นางเต็มใจฯ กล่าวว่า ชาวบ้านไม่ได้มาฟ้องร้องเอาผิดใคร มาเพียงเพื่อทวงสิทธิของเราเอง เงินค่าอุปกรณ์การเรียนของเด็ก เงินกองทุนที่ชาวบ้านสะสมมา ที่ ผอ.เคยยืมไปก่อนหน้านี้ และที่แอบเบิกออกไปรวมแล้วกว่า 370,000 บาท , เงินประกันอุบัติเหตุคนละ 150 บาท เอามาคืนให้กับเด็กๆและโรงเรียน และจนถึงขณะนี้อยากให้ย้าย ผอ.ไปจากโรงเรียน เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่นักเรียนลดลงเรื่อยๆ
นายเจษฎา ปานะถึง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และได้ส่งเรื่องให้ สพป.อุดรธานี 3 สอบสวนรายงานข้อเท็จจริง เมื่อครบกำหนดยังไม่รายงานมา จึงทวงถามทราบว่าอยู่ระหว่าง คณะกรรมการดำเนินการสอบสวน