เมื่อเวลา 10.00 วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ศูนย์วิทยุร่อมโพธิทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากนายนายเสมือน ชารี อายุ 58 ปี ผญบ. ม14 บ.หนองบุ ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ว่ามีเหตุมีชายสูงวัยอายุ 61 ปี จมน้ำเสียชีวิตบริเวณศาลเจ้าปู่ขุนศรี-แม่ย่าตะเคียนทอง ซึ่งอยู่ที่หนองน้ำสาธารณะท้ายหมู่บ้านหนองบุ ม.14 ต.สามพร้าว จึงประสานหน่วยกู้ชีพ อบต.สามพร้าว และอาสากู้ภัยชุดประดาน้ำมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่ราว 100 ไร่ มีความลึกประมาณ 3-4 เมตร ที่บริเวณข้างศาลปู่ย่าท้ายหมู่บ้านหนองบุ พบญาติพี่น้องคนจมน้ำและชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนมุงดูกันนับร้อยคน ทราบชื่อคนจมน้ำเสียชีวิตภายหลังคือ นายเดช ศาลาชัย อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 32 ม.3 บ.หนองบุ ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี โดยมีนางกลมแฝง ศิลาชัย อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตายนั่งร้องไห้แทบเป็นลม ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีญาติพี่น้องและเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้ามาช่วยปฐมพยาบาล และปลอบใจ
โดยเจ้าหน้ากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมฯชุดประดาน้ำ ได้ลงค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมง ห่างจากฝั่งราว 20 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่พบหมวกและถุงปุ๋ยลอยอยู่เหนือน้ำ ก็ไม่พบศพ จึงนำเรือท้องแบนลงค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบร่างผู้ตาย ทั้งที่ภรรยาผู้ตายชี้ยืนยันจุดที่สามีจมน้ำอย่างชัดเจน ภรรยาและญาติจึงได้ไปจุดธูปบอกกล่าวเจ้าปู่ขุนศรีและแม่ย่าตะเคียนทองที่ศาล ให้ช่วยพบศพสามีโดยเร็ว
นางกลมแฝง ศิลาชัย อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า วันนี้ชวนกันมาไหว้ศาลปู่ย่า เนื่องจากตรงกับวันพระ แต่สามีขอแยกตัวลงน้ำไปเก็บฝักบัวไปกิน เพราะเห็นว่ามีเยอะ สักพักก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากสามี จึงวิ่งมาดูก็เห็นสามีกำลังจะจมน้ำ ตนจึงรีบไปเรียกคนอื่นมาช่วยเหลือ เมื่อกลับมาก็ไม่พบสามีแล้ว ตนและสามีแต่งงานอยู่กินมานานเกือบ 40 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็น ผู้ชายทั้งคู่
”สามีเป็นคนดี เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ไม่เคยนอกใจ และเป็นคนขยันทำงาน มีอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่บ่อบำบัดน้ำเสีย เทศบาลนครอุดรธานี จะเข้ากะตอนกลางคืน กลางวันก็จะออกมาหาทำงานรับจ้าง หรือออกมาหาปลา หาเก็บสายบัว ฟักบัว ก่อนเกิดเหตุไม่ลางสังหรณ์อะไร อยากบอกสามีว่า เกิดมาชาติหน้าขอให้กับมาเป็นคู่กันอีก และเชื่อว่าสามีเป็นคนดี เจ้าปู่แม่ย่าจึงอยากพาไปอยู่ด้วย”
นายเสมือน ชารี อายุ 58 ปี ผญบ. ม14 บ.หนองบุ เล่าว่า หลังรับแจ้งจากชาวบ้าน จึงรีบมาตรวจสอบ และจากการสอบถามทราบว่า สองสามีภรรยานานๆที จะมากราบไหว้ศาลปู่ย่าที่นี่ พอมาถึงภรรยาเข้าไปไหว้ศาล แต่สามียังไม่ได้เข้าไปไหว้ ขอปลีกตัวลงไปในหนองน้ำ เพื่อเก็บสายบัว ฝักบัว คิดว่าเจ้าปู่ขุนศรี และเจ้าย่าตะเคียนทอง ที่ปกปักษ์รักษาที่นี่อาจจะโกรธ ที่ไม่บอกไม่กล่าว ในการลงไปในหนองน้ำ เพื่อเก็บสายบัวและฝักบัว จึงเอาไปอยู่ด้วย ซึ่งศาลที่นี่ตั้งมาพร้อมหมู่บ้านมานานเกือบ 100 ปี
“ศาลปู่ย่าแห่งนี้เป็นที่พึ่งทางใจของคนในหมู่บ้านหนอบุ ทั้ง 2 หมู่ คือหมู่ 3 และหมู่ 14 ชาวบ้านแถบนี้ส่วนใหญ่มาขอให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ มาขอโชคขอลาภ ขอหวย มาขอให้หายเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ และบริเวณนี้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน เคยมีคนจมน้ำเสียชีวิตมาแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ตอนนั้นจะจมอยู่ทางด้านทิศตะวันตก แต่ครั้งนี้อเหตุเกิดอยู่ทิศตะวันออก อยากฝากถึงผู้คนที่มากราบไหว้ที่นี่ หรือมาจับสัตว์ที่บริเวณแห่งนี้ ให้ทำการบอกกล่าวพ่อปู่แม่ย่าทุกครั้ง มันเป็นความเชื่อของคนที่นี่ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์สลดแบบนี้ขึ้นอีก”
เบื้องต้นอาสากู้ภัยใช้เรือท้องแบนพร้อมอุปกรณ์ ออกไปช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่อยู่กลางหนองน้ำ จนถึงช่วงประมาณ 17.00 น. ก็ยังไม่พบร่างผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีสสายบัว จอกแหน และวัชพืชน้ำ ที่อยู่ข้างล่างหนาประมาณ 1 เมตร เป็นอุปสรรคในการค้นหา คาดว่าหากแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป จะยกเลิกภารกิจค้นหาชั่วคราว ก่อนจะกลับมาเริ่มค้นหาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น