วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมอดีตผัวเมียทะเลาะกันปืนลั่นถูกหลานชายดับเผาอำพรางหนีความผิด      

อดีตผัวเมียทะเลาะกันปืนลั่นถูกหลานชายดับเผาอำพรางหนีความผิด      

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2565  ร.ต.อ. วิจิตร หาญชุยชาย รอง สว.สอบสวน สภ.ไชยวาน รับแจ้งจากนายสะไกร ฤทธิจร กำนัน ต.คำเลาะ ว่ามีศพผู้ชายถูกฆ่าและเผาอำพรางที่กระท่อม ท้ายหมู่บ้านวังงามพัฒนา ม.8 ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรบดินทร์ วงค์รินทอง สว.สส.สภ.ไชยวาน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธร จ.อุดรธานี แพทย์เวร รพ.ไชยวาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จุดบริการ อ.หนองหาน เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพนายภูเยี่ยม จันสมรสุข อายุ 45 ปี ไม่ทราบที่อยู่ ถูกไฟเผาไหม้เกือบทั้งตัวเหลือเพียงแค่ช่วงขา อยู่บนเก้าอี้ไม้ยาวหน้ากระท่อม จากการตรวจสอบพบ เสื่อกก เสื้อผ้า และสายเบลท์รัดของ คาดว่าจะใช้ห่อรัดศพ ก่อนที่จะนำมาเผา ศพมีร่อยรอยถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณใบหน้า ใกล้กันพบรองเท้าบูท 1 คู่ และตรวจค้นในกระท่อมพบมีดยาว 2 เล่ม ปืนแก๊ป 1 กระบอก เบื้องต้นจะได้ส่งศพไปผ่าตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียด ระหว่างนั้นแม่นายภูเยี่ยมฯ ได้เดินทางมาดูศพลูกชาย ได้ร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าเสียใจ

โดยมีนายสองเมือง จรรยาโน หรือแก่น อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 ม.1 ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน และนางสาวปรียา ดีจันทร์เหนือ หรือน้อย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 ม.8 ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน ป้าและลุงผู้ตายอยู่ในที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงนำตัวทั้งสองคนมาสอบปากคำที่โรงพัก ตำรวจชุดสืบสวนได้แยกสอบปากคำ ตอนแรกทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธ ตำรวจเค้นสอบอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จนนางสาวปรียาฯ ยอมเปิดปากว่า ตนกับอดีตสามีทะเลาะกัน จึงเอาปืนขึ้นมาขู่ แล้วปืนลั่นถูกหลานเสียชีวิต ด้วยความกลัวจึงทำการเผาศพนายภูเยี่ยมฯ ตำรวจจึงได้นำตัวไปค้นหาปืนของกลาง ซึ่งนางสาวปรียา ได้นำไปฝังไว้หลังกระท่อม ส่วนปลอกกระสุนโยนทิ้งในป่ายาง เบื้องต้นพบว่าเป็นปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมลูกกระสุน 1 นัด

นายสะไกรฯ กำนัน ต.คำเลาะ เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเหตุไฟไหม้ที่กระท่อมนา จึงได้ออกมาตรวจสอบพร้อมชาวบ้าน เมื่อไปถึงพบกองไฟลุกไหม้อยู่หน้ากระท่อม จึงเข้าไปดับไฟ แล้วพบว่ามีร่างคนอยู่ในกองไฟจึงรีบใช้น้ำดับ ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สอบถามญาติแล้วผู้ตายคือนายภูเยี่ยมฯ ที่เกิดเหตุก็เป็นที่ไร่ที่นาของผู้ตาย อาศัยอยู่กับแม่และป้า ในหมู่บ้าน โดยที่นาใกล้กันเป็นของนางสาวปรียาฯ ป้าผู้ตาย มีนายสองเมืองฯ อดีตลุงเขย มาอยู่อาศัย ส่วนสาเหตุนั้นตนยังไม่ทราบ ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ผู้ตายเป็นคนขยันหาอยู่หากิน เป็นคนนิสัยดี จะพักอาศัยในหมู่บ้าน และจะออกมาทำไร่ทำนา ส่วนเรื่องอื่นนั้นตนก็ไม่ทราบ

นางสาวปรียาฯ ให้การว่า ตนกับนายสองเมือง เคยเป็นสามีภรรยากัน เลิกกันไปได้ 1 ปี แต่นายสองเมือง ยังเช่าที่นาของตนเพื่อปลูกข้าว ช่วงเกิดเหตุตนได้มาทวงข้าว ซึ่งตกลงเป็นค่าเช่านาระหว่างกัน ที่กระท่อมของหลานชาย จากนั้นจึงได้มีปากเสียงกัน ตนถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย จึงได้ชักปืนขึ้นมาขู่ นายสองเมืองฯ ได้เข้าแย่งปืน และปืนลั่นถูกนายภูเยี่ยมฯ  ล้มลง ส่วนนายสองเมืองฯ วิ่งหนี ตนกลัวความผิดจึงได้นำเสื่อ และเสื้อผ้ามาหอศพหลานแล้วจุดไฟเผาเพื่ออำพราง

“ จากนั้นได้นำปืนไปขุดหลุมฝังไว้ด้านหลังกระท่อม แล้วไปแจ้งกำนันว่าไฟไหม้กระท่อม เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ปืนกระบอกนี้ตนซื้อมาในราคา 500 บาท ซื้อมานานแล้วเพื่อใช้ป้องกันตัว เพราะนายสองเมืองทำร้ายร่างกายตนบ่อยครั้ง จนต้องได้เลิกกันไปได้ประมาณ 1 ปี แต่อดีตสามียังขอเช่าที่นาทำกิน ตนก็จะมาแบ่งเอาข้าวเพื่อเป็นค่าเช่านา แต่คืนเกิดเหตุนายสองเมืองฯ ไม่ยอมให้ข้าวตาที่ตกลง จึงทะเลาะกันและตนถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้เกิดเหตุการณ์ปืนลั่นขึ้นดังกล่าว “

เบื้องต้นนางสาวปรียาฯ ยังให้การภาคเสธ เนื่องจากอ้างว่ามีการแย่งปืนกันแล้วปืนลั่น โดยตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตาย และเผาอำพรางศพ  พร้อมตรวจคราบเขม่าดินปืน เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments