วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมพ่อแม่ร่ำไห้ “น้องตะวัน” เก็บเงินในกระทงจมน้ำสมองตายหมอให้ทำใจเตรียมบริจาคอวัยวะ

พ่อแม่ร่ำไห้ “น้องตะวัน” เก็บเงินในกระทงจมน้ำสมองตายหมอให้ทำใจเตรียมบริจาคอวัยวะ

กรณีมีชาวบ้านถ่ายคลิปเด็กชายนิรนาม จมน้ำขณะลงไปเก็บเงินในกระทง ในงานวันลอยกระทง ที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ทหาร 4 นายลงไปช่วยและปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งอาการโคม่า และเพจข่าวเมืองอุดรธานีประกาศตามหาญาติ ซึ่งมีชาวบ้านที่ไปเที่ยวงานลอยกระทงได้ถ่ายคลิปน้องตะวันขณะเดินเก็บเงินในกระทงเอาไว้ได้

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ พบ น.ส.สมฤทัย สุขมะโน พนักงานกู้ชีพเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ เดินไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่ ด.ช.กิตตินันท์ ฤทธิ์มหา หรือน้องตะวัน อายุ 11 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 14 บ้านชัยเจริญ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี จมน้ำ ซึ่งอยู่ภายในเกาะกลางหนองน้ำ มีทางเดินคอนกรีตรอบเกาะกลางกว้างประมาณ 1.5 เมตร และมีขั้นบันไดอยู่ในน้ำ 1 ขั้น  บริเวณที่เด็กจมน้ำอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2-3 เมตร และมีเรือเจ้าหน้าที่ ปภ.รอยอยู่ห่างจากฝั่ง 5-6 เมตร

น.ส.สมฤทัย เล่าว่า เมื่อคืนนี้เทศบาลได้จัดงานวันลอยกระทง มีชาวบ้านมาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งได้ประกาศห้ามเด็กลงไปเก็บเงินในกระทง เนื่องจากสระลึกประมาณ 4-5เมตร แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งเด็กที่ตกน้ำมาเที่ยวกับพ่อ แม่ และพี่  เด็กจะลงมายืนตรงบริเวณขั้นบันไดในน้ำ เพื่อเก็บเงินในกระทง ไม่นานก็มีคนมาบอกทหารว่ามีเด็กตกน้ำ และชี้จุดบริเวณที่ตกลงไป ทหาร 4 นายจึงกระโดดลงไปงมหาประมาณ 10 นาที จึงดึงร่างขึ้นมา แต่น้องหมดสติ เจ้าหน้าทีได้ช่วยกันปั๊มหัวใจประมาณ 30 นาที และนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอยากฝากผู้ปกครองให้ดูแลเด็กให้ดี เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง เพราะคนมาเที่ยวจำนวนมาก

นางวันทนา ฤทธิ์มหา อายุ 40 ปี และนายพินิจ ฤทธิ์มหา อายุ 42 ปี พ่อและแม่น้องตะวัน  เล่าว่า พ่อเป็นพนักงานปั๊มน้ำมัน ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน มีลูก 3 คน น้องตะวันเป็นคนสุดท้อง เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านชัยพรมิตรภาพที่ 67 ซึ่งเป็นเด็กร่าเริง ขยัน เรียนเก่ง ช่วยเหลืองานบ้านดี ออมเงินไว้ใช้ ถ้าอยากได้อะไรก็จะหารายได้เก็บของเก่า และเก็บเงินโปรยทานงานกฐิน งานบุญ งานศพ ตอนนี้น้องตะวันอยากได้โทรศัพท์มือถือ จึงหารายได้เพื่อเก็บเงิน ตอนนี้สะสมเงินได้ 500 บาทแล้ว

นายวันทนา และนายพินิจ เล่าต่อว่า เมื่อคืนนี้พ่อและแม่ได้พาลูก 3 คน ไปลอยกระทงและเที่ยวงานลอยกระทง ที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ โดยเดินเข้าไปลอยกระทงในเกาะกลางน้ำ ส่วนพ่อกลับบ้านก่อน น้องตะวันจะยืนอยู่ทางคอนกรีตชั้นล่าง เห็นเงินในกระทง 10 หรือ 20 บาท ก็อยากได้ตามประสาเด็ก จึงยืนอยู่ริมน้ำรอเก็บเงินในกระทง ตนนั่งกินซูชิมองดูลูกอยู่ใกล้ๆ ซึ่งน้องตะวันก็ได้เดินขึ้นมากินซูชิกับตน ก่อนจะเดินกลับไปเก็บเงิน ระยะเวลาไม่นานพี่ชายไปหาน้องไม่เห็น จึงมาบอกแม่และบอกทหารให้งม พบว่าน้องจมน้ำหมดสติ ปั๊มหัวใจแล้วนำส่งโรงพยาบาล

“อาการของน้องหมอบอกว่า สมองตายแล้ว ไตวาย ตับไม่ทำงาน และปอดมีเลือดออกในปอด เพราะน้ำเข้าปอดจำนวนมาก ถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจน้องไปได้เลย หมอให้ยากระตุ้น 3 ตัวแล้ว แต่น้องไม่ตอบสนองการรักษา นอนนิ่ง กำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก กระโดดลงไปเอง มีคนผลัก เดินชน เพราะเป็นคนกลัวตาย กลัวจมน้ำ ถ้าต้องลงจะเลือกลงที่ตื้นที่สุดที่ทำได้ แต่จมน้ำแบบไหน เดินลงไปหรือกระโดดลงไปตอนไหน อยู่กับลูกตลอด พี่ชายไปหาน้องไม่เห็น เห็นรองเท้าลอยข้างเดียว จึงวิ่งมาบอกแม่ว่าน้องไม่เห็น จึงวิ่งไปบอกทหารว่าน่าจะจมตรงนี้ เพราะมีฟองอากาศลอยขึ้นมา ทหารกระโดดลงไปช่วย และดึงขึ้นมา”

นายพินิจ เล่าต่ออีกว่า ไม่เคยมาเที่ยวกับลูก มีแต่ให้ลูกมากับแม่ ตนอยู่กับลูกซักพักตนก็ได้กลับบ้านก่อน  แต่ก่อนกลับตนได้ขึ้นไปสะพานยืนมองดูลูกยืนแช่น้ำไม่ลึกเก็บเงินในกระทง และดูว่าแม่ดูแลลูกอย่างไร พอตนแน่ใจว่าจะปลอดภัยจึงกลับบ้าน และมาทราบว่าลูกจมน้ำ คุณหมอแนะนำว่า ลูกมีบุญกับเราแค่นี้ ร่างกายน้องยังเด็ก อวัยวะบางส่วนยังใช้ได้ ทำบุญครั้งสุดท้ายให้กับลูกก่อนจะหมดลมหายใจ จึงปรึกษากับภรรยา และตกลงกันว่าจะบริจาคอวัยวะของลูก ซึ่งหมอได้นำเลือดน้องตะวันส่งไปตรวจ ต้องรออีก 2-3 วัน พอให้ครอบครัวของตนได้ทำใจ

ด.ช.ต้น อายุ 13 ปี พี่ชายน้องตะวัน เล่าว่า ตนกับน้องได้เดินรอบๆ หนองน้ำ ตนจะชี้กระทงให้น้องเก็บเงิน  จากนั้นตนจึงได้เดินกลับไปที่จุดที่แม่และพี่สาวนั่ง ตนนั่งกินซูชิกับญาติ ไม่นานน้องจะวันก็เดินตามมากินซูชิ เสร็จแล้วเดินกลับไปเก็บกระทงต่อ ตนนั่งกินต่อ 2 ชิ้น ก็รีบเดินออกมาหาน้องแต่ก็ไม่พบ  มองหาซ้ายขวาก็ไม่พบ จึงเดินตามหารอบเกาะ  แต่ตนเห็นรองเท้าน้องลอยขึ้นมาจากน้ำ และมีฟองอากาศ ตนจึงได้เรียกแม่ และให้คนแถวนั้นลงไปช่วยเอาน้องขึ้นมา  ส่วนตนก็ไปเรียกเจ้าหน้าที่กูภัยมาช่วย โดยน้องจมลงไปประมาณ 10 นาที  ซึ่งตอนเป็นเด็กตนก็เคยมาเก็บเงินในกระทงแต่พอโตก็เลิกเก็บ พอน้องมาเก็บตนก็จะมาด้วย  ตนก็ไม่คิดว่าน้องชายจะจากไปกะทันหันแบบนี้ ตนก็อยากฝากให้ระวังเกี่ยวกับน้ำ ใครว่ายน้ำไม่เป็นก็ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ข้างๆเพราะอันตรายเกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบครอบครัวตนได้

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments