จากกรณีสาวท้องแก่ใกล้คลอดโพสต์คลิปและภาพเพื่อเตือนภัยสังคม หลังจากถูกหนุ่ม 17 ปี ข้างบ้าน มีอาการคุ้มคลั่งก่อเหตุปีนหลังคาครัวหลังบ้าน และมีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ทั้งจุดประทัดโยนใส่หน้าบ้าน ขู่ทำร้ายร่างกาย รวมทั้งบุกรุกเข้ามาในบ้าน เหตุเกิดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่บ้านพักใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มีการเข้าแจ้งความมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดหนุ่ม 17 ปี รายนี้ ถูกตำรวจจับกุมข้อหาบุกรุกเคหสถาน เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 และเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมเงินประกัน 3,000 บาท แต่ยังต้องรายงานตัวที่สถานพินิจ ด้านผู้การฯอุดรธานี ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียหาย และขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำตัวหนุ่มรายนี้มาบำบัด
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ชวภณ จันทเมนชัย ผกก.สภ.หนองหาน นายเจริญจิต สืบสาววงศ์ นอภ.หนองหาน พร้อมด้วยผู้แทนจาก รพ.หนองหาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เดินทางไปพบกับนางยุพดี แก้วจิตร อายุ 65 ปี อดีตข้าราชการครู เจ้าของบ้านเลขที่ 112 ม.2 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และนางสาวกนกวรรณ แก้วจิตร หรือกุ๊บกิ๊บ ลูกสาว ผู้โพสต์คลิปและเรื่องราวดังกล่าวลงในโซเชียลเพื่อเตือนภัย มีการพูดคุยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา และให้กำลังใจผู้เสียหายทั้ง 2 คน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนที่คณะจะเดินมาที่บ้านของหนุ่ม 17 ปีที่อยู่ติดกัน ทราบว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านและไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนเดินไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ร้านขายของชำที่อยู่ติดกันอีกฝั่งของบ้านหนุ่ม 17 ปี
นางยุพดีฯ และนางสาวกนกวรรณฯ ร่วมกันให้ข้อมูลว่า บ้านทั้งสองหลังเป็นที่ดินมรดกตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ บ้านทั้งสองหลังถือว่าสนิทกันมานาน นายลีโอ หนุ่ม 17 ปี ก็คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก เขาเคยมาวิ่งเล่นในบ้านเป็นประจำ แต่พอโตเป็นหนุ่มแล้วก็ห่างกันไป มาเห็นอีกทีก็มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนมีอาการคุ้มคลั่งและมาก่อกวนที่บ้าน ความขัดแย้งเรื่องอื่นยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องผิดใจกัน หลังเกิดเรื่องครอบครัวเกิดความหวาดกลัว ระแวงอยู่ตลอดเวลาว่านายลีโอจะคลั่งจนถึงขั้นเข้ามาทำร้ายร่างกายคนในบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก มีผู้ชายเพียง 1 คน ก็คือลูกเขย ที่บ้านพยายามระวังตัวกันตลอดเวลาเรียกว่าถึงขั้นผวากันทั้งบ้าน เมื่อนายลีโอถูกจับกุมก็รู้สึกโล่งใจ แต่ก็ต้องกลับมาผวาอีกเมื่อทราบว่าถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว
“ วันนี้รู้สึกดีใจขึ้นมาอีกครั้ง ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเห็นความสำคัญ และลงมาพูดคุยให้ความเชื่อมั่น ในการดูแลประชาชน เพราะต้องทนกับพฤติกรรมเพื่อนบ้านรายนี้มานานมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยจิตเวช ดูแลผู้ป่วยจากการเสพยาเสพติด เห็นข่าวที่ออกมาทุกวันก็ได้แต่ภาวนาว่าจะเกิดการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จ จะได้ไม่เกิดการสูญเสียขึ้นอีก สำหรับนายลีโอเราก็มองว่าเขาป่วย อยากให้ครอบครัวของเขาส่งตัวไปบำบัดรักษาให้หายขาด ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ยอมรับว่าหวาดกลัว แต่ไม่ได้คิดแค้น อยากให้เขากลับสู่ความปกติในสังคมก้เท่านั้น ”
ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากข่าวที่ปรากฏออกมา ผู้เสียหายเป็นบุคคลที่มีความอ่อนไหว เป็นผู้หญิงและตั้งครรภ์ใกล้คลอด เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายตำรวจและปกครอง หลังรับแจ้งเราก็เข้ามาดูแลโดยตลอด แล้วพบว่าเพื่อนบ้านรายนี้มีพฤติกรรมเสพยาจริง ตรวจปัสสาวะแล้วมีสีม่วง เมื่อมีการจับกุมในคดีบุกรุก เราก็ส่งตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.อุดรธานี เราได้ยื่นคำร้องขอฝากขังไป ศาลท่านก็มีดุลพินิจว่าผู้ถูกกล่าวหายังไม่มีความผิด แต่ก็มีเงินประกันไว้ 3,000 บาท ในวันนี้ทางคณะก็ได้มาอธิบายถึงขั้นตอนเหล่านี้ให้ฟัง อย่างไรก็ตามเราไม่ได้นิ่งดูดาย จะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาดูแลความเรียบร้อยผู้เสียหาย
“ เราจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง ในการสอบสวนปากคำในพฤติการณ์ของผู้เสียหาย เพื่อให้ศาลท่านได้โปรดใช้ดุลยพินิจให้เป็นคุณกับฝ่ายผู้ที่ถูกละเมิดในการใช้ชีวิตปกติ จากเหตุการณ์นี้เราได้ตอบสนองต่อความเดือดเนื้อร้อนใจของพี่น้องประชาชน โดยไม่คำนึงถึงว่าจะต้องรอให้เกิดเหตุลุกลามใหญ่โต ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า อยากให้ช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมของกลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยจิตเวช หากพบว่าในเขตใกล้เคียงของท่านมีบุคคลป่วยจิตเวช มีบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากประเมินแล้วว่าอาจจะเป็นบุคคลอันตราย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทั้งฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครองโดยด่วน ”