เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2565 นางดอกไม้ ศรีชัย อายุ 62 ปี พร้อมลูกชายและญาติ เดินทางมาแผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อติดต่อขอรับศพลูกชาย ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อายุ 34 ปี อดีตตำรวจมือกราดยิง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู แล้วยิงตัวตาย ได้มาติดต่อขอรับศพ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี หลังจากญาติเหยื่อและชาวบ้านไม่ยินยอมให้นำศพ ส.ต.อ.ปัญญา มาตั้งศพประกอบพิธีในวัดเดียวกัน จึงนำร่างกลับมาไว้ที่นิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี ซึ่งญาติได้ติดต่อฌาปนกิจที่วัดแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี แต่ก็โทรศัพท์ขอยกเลิก
ต่อมาเวลา 12.15 น. นางดอกไม้ และญาติได้ติดต่อไปยังเจ้าอาวาสวัดใหม่หนองหิน ชุมชนหนองหิน-ร่มเย็น เทศบาลเมืองหนองสำโรง อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจร่างลูกชาย ซึ่งเจ้าอาวาสได้อนุญาต จึงนำร่างบรรจุโลงขึ้นรถปิกอัพไปที่เมรุวัด โดยมีญาติ 10 คน นำโลงศพใส่รถเข็นเดินรอบเมรุ 3 รอบ เสร็จแล้วนำโลงขึ้นไปบนเมรุ นางดอกไม้ได้เดินไปเคาะโลงศพบอกลูกชายว่า “เกิดชาติหน้าอย่าทำอย่างนี้อีก” ก่อนนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป ประกอบพิธีทางศาสนาสวดมาติกาบังสุกุลแล้วกรวดน้ำ ถวายปัจจัย พระสงฆ์ 4 รูป เสร็จแล้วเปิดฝาโลงให้แม่และญาติใช้น้ำอบน้ำหอมล้างหน้าศพ ซึ่งนางดอกไม้ร่ำไห้ตลอดเวลา เสร็จแล้วนำโลงเข้าเตาเผา เวลา 14.10 น. สัปเหร่อจุดไฟฌาปนกิจ โดยญาติจะกลับมาเก็บอัฐิอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่า หลังจากแม่และญาติดำเนินการเรื่องเอกสาร ขอนำศพอดีตตำรวจคลั่งกราดยิงออกจากโรงพยาบาลอุดรธานีเสร็จเรียบร้อย และกำลังจะขนย้ายศพไปทำการฌาปนกิจที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊คโพสต์ข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊คสาธารณะ “อุดร มีด่าน มีข่าว มีหมอลำ งานบุญ มีเหตุการณ์ต่างๆ บอกด้วย” ระบุถึงเรื่องดังกล่าว และบางโพสต์ระบุว่าไม่ยินดีให้นำศพฆาตรกรมาเผาในพื้นที่ จนมีการแชร์โพสต์และวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางส่วนก่นด่า สาปแช่ง ไม่อยากให้นำศพมาเผา และบางส่วนมองว่าเป็นเรื่องทางศาสนา ไม่ควรจำกัดจะเป็นคนดีหรือไม่ดี วัดก็ควรที่จะดำเนินการต่อไป และสงสารเจ้าหน้าที่อาสาที่ต้องขนย้ายศพ อยากให้ดำเนินการเผาให้แล้วเสร็จ…