นายวิชัย จาตุรงค์กร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เหลือฤดูฝนราว 1 เดือน หรือจะสิ้นสุดลงช่วงกลางเดือนตุลาคม จากการติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงที่มีความจุ 135 ล้าน ลบม.ขณะนี้มีน้ำไหลเข้าอ่างฯเพียง 47 ล้าน ลบ.ม. หรือ 35 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่างฯ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกว่าทุกปีที่ผ่านมาในห้วงเวลาเดียวกันที่จะมีน้ำไหลเข้าอ่างฯประมาณ 58 ล้าน ลบ.ม. หากรวมปริมาณน้ำที่มีอยู่ในอ่าง จะมีปริมาณน้ำไม่ต่ำกว่า 90 ล้าน ลบ.ม. เมื่อฤดูฝนสิ้นสุดลงของทุกปี
”สถิติตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงปัจจุบัน มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพียง 31 ล้าน ลบ.ม. ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 46 เปอร์เซ็นต์ และความต้องการใช้น้ำอุปโภคบริโภค ผลิตน้ำประปา รวมทั้งสนับสนุนภาคการเกษตร ไปจนถึงสิ้นหน้าแล้งปี 2565 จะต้องมีน้ำเข้ามาเติมอ่างอีกประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม. รวมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ในอ่างตอนนี้ 47 ล้าน ลบ.ม. ถึงจะมีน้ำที่พอเพียงใช้ไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากทุกปีช่วงกลางเดือนตุลาคม ฝนก็จะเริ่มเบาบาง และจะเกิดลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลมหนาวพัดผ่านมาในพื้นที่ ส่งผลกระทบให้ภาคอีสานตอนบน มีปริมาณฝนลดน้อยลงหรือเบาบาง แต่จะไปตกมากในตอนล่างของประเทศแทน”
นายวิชัย จาตุรงค์กร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง จ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุน้ำในอ่างที่มีน้อย เพราะฝนที่ตกลงมาไม่ตกเหนืออ่าง แต่ฝนกลับตกบริเวณท้ายและข้างอ่าง ลักษณะคล้ายเกือกม้า หากปริมาณน้ำไม่เพียงพอใช้ถึงสิ้นหน้าแล้งปีหน้า คงต้องงดสนับสนุนภาคเกษตร และจะบริหารจัดการน้ำที่เหลือเพื่อผลิตน้ำประปาเท่านั้น ซึ่งต้องใช้วันละ 200,000 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ที่รวมค่าเฉลี่ยระเหยและรั่วซึม วันนี้รายงานความน่าจะเป็นและขอวอนให้ชาวเมืองอุดรธานี ประหยัดการใช้น้ำแต่เนิ่นๆ จะได้มีน้ำใช้กันตลอดทั้งปีอย่างไม่เดือดร้อน
ภาพ/ข่าว วัฒน์พล ช้างรักษา ข่าวไทยรัฐอุดรธานี
