ล่าคนร้ายซิ่งจยย.สาดน้ำกรด ผช.พยาบาลแม่ลูกอ่อน รถเสียหลักตกข้างทางหวังชิงทรัพย์ โชคดีชาวบ้านช่วยทัน
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ร.ต.อ.พงษ์พิพัฒน์ ลิขิตโยธิน รอง สว.สอบสวน สภ.พิบูลย์รักษ์ อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุจาก รพ.พิบูลย์รักษ์ ว่าน.ส.วิภาวดี พาที หรือแป๋ว อายุ 43 ปี ผช.พยาบาลห้องกายภาพบำบัด รพ.พิบูลย์รักษ์ ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สาดน้ำกรดใส่ จนรถเสียหลักตกลงข้างทาง ขณะขับขี่ จยย.กลับบ้าน หลังออกเวรบนถนนบ้านแดง-บ้านดงยาง ห่างจากโรงพยาบาล 1 กิโลเมตร มีพลเมืองดีให้การช่วยเหลือ คาดว่าเป็นเหตุพยามชิงทรัพย์
ที่ รพ.พิบูลย์รักษ์ น.ส.วิภาวดี พาที หรือแป๋ว ผช.พยาบาลฯ เพิ่งคลอดลูกสาวได้ 3 เดือน และมาทำงานได้ 2 สัปดาห์ ได้รับบาดเจ็บเป็นรอยไหม้ที่ใบหน้า ตามร่างกาย แขนและขาทั้ง 2 ข้าง หลังปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้นำตัวผู้บาดส่งรักษาอาการต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เนื่องจากน้ำกรดอาจทำลายเนื้อเยื่อดวงตาทั้ง 2 ข้าง อาจถึงขั้นพิการตาบอด หรือไม่ก็อาจจะมองเห็นไม่ชัด และเกรงว่าแผลอาจจะติดเชื้อถึงขั้นเสียชีวิตได้
นายคำพล กองรอด อายุ 62 ปี พลเมืองดี เล่าว่า ขณะให้ข้าวสุนัขอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงรถชนกันจึงออกมาดู โดยสวมโคมไฟที่ศีรษะ ได้ยินเสียผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ อยู่ในร่องข้างถนนหน้าบ้าน และพบคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม ผิวดำแดง สวมเสื้อคลุมแบบมีฮูดคลุมศีรษะไว้ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอด เดินลงไปหาผู้บาดเจ็บในร่องข้างถนน คนร้ายเห็นว่ามีคนมาดู จึงขึ้นรถจักรยานยนต์ขับออก ทางบ้านดงยางอย่างช้า ๆ ถามก็ไม่ตอบ จึงให้ภรรยาโทรแจ้ง 1669
“ สอบถามผู้บาดเจ็บบอกว่า ไม่ใช่เหตุรถชนกัน แต่ผู้ชายคนดังกล่าวไม่รู้เอาอะไรฟาด หรือสาดใส่ขณะขี่รถ จนทำให้รถเสียหลักตกลงข้างทาง และมีอาการปวดแสบปวดร้อนทั่วร่างกาย จึงทำให้มั่นใจว่า คนร้ายจะชิงเอาทรัพย์สินผู้บาดเจ็บเป็นแน่ หากไม่ออกมาพบเห็นก่อน ไม่รู้ว่าผู้บาดเจ็บจะเป็นอย่างไร มันคงจะลงไปชิงเอาทรัพย์สินขอผู้บาดเจ็บ และหากขัดขืนคงถูกทำร้ายซ้ำอย่างแน่นอน ”
ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี จ.ส.อ.พัทธกร พันสาย อายุ 43 ปี สามีผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า เชื่อว่าเป็นการหวังชิงทรัพย์ ผู้หญิงขี่รถ จยย.กลับบ้านตามลำพัง ไปตามทางที่เปลี่ยวและมืด ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องชู้สาว หรือภรรยาตนไปมีเรื่องบาดหมางแค้นส่วนตัวกับคนอื่น เพราะภรรยาตนเพิ่งคลอดลูกสาวได้เพียง 3 เดือน และขณะนี้ภรรยาปลอดภัยดีและให้การได้ แต่ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสักระยะ หมอบอกว่าน้ำกรดทำลายเนื้อเยื่อดวงตาไปบางส่วน ส่งผลให้อนาคตอาจมองเห็นได้ไม่ชัด
“ อยากให้ติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะมันเป็นภัยอันตรายต่อสังคมชาว อ.พิบูลย์รักษ์ อย่างมาก ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน และอยากถามคนร้ายว่า ทำไมถึงใช้น้ำกรดก่อเหตุกับภรรยาของตน ภรรยาไปทำอะไรให้ ทำไมถึงใจร้ายทำกับภรรยาตนได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งตนก็อยากบอกถึงผู้หญิงที่ขับขี่รถไปตามทางที่เปลี่ยว และมืดในเวลากลางคืน ไม่ควรไปไหนมาไหนตามลำพัง ควรมีเพื่อนไปด้วย เพื่อเป็นการป้องกันการก่อเหตุของคนร้ายในเบื้องต้น ” ……
