เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ตุลาคม 2564 ขณะที่ พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.สอบสวน สภ.ย่อยห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีเหตุชายอายุ 50 ปี ลงตาข่ายจับปลาจมน้ำเสียชีวิตกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านจำปา ม.10 ต.เชียงยืน หลังจากญาติพี่น้องออกตามหาอยู่ 2 วัน แต่ไม่พบ กระทั่งเช้าวันนี้พบเป็นศพลอยขึ้นมาจากคลองน้ำ จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี
ที่เกิดเหตุเป็นคลองน้ำท้ายที่นาของผู้ตาย ห่างจากกระท่อมนาที่ผู้ตายอาศัย 200 เมตร พบศพนายสุนันทา ไชยเลิศ หรือจ่อย อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 61 ม.10 บ.จำปา ต.เชียงยืน สภาพศพหงายขึ้นอืดอยู่ในคลองน้ำข้างวัชพืช ความลึกประมาณ 1 เมตร อาสากู้ภัยฯนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาตรวจสอบ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้และถูกทำร้าย เสียชีวิตจากการจมน้ำขาดอากาศหายใจมาประมาณ 48 ชั่วโมง ญาติไม่ติดใจในสาเหตุ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
สอบสวน นายพรมมณี ไชยเลิศ อายุ 64 ปี พี่ชายคนโตของผู้ตายเปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นน้องคนที่ 8 จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน โสดไม่เคยมีครอบครัว นิสัยดีมีน้ำใจ ชอบหาหอยหาปูหาปลามาแบ่งให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงกินอยู่เป็นประจำ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือบาดหมางกับใคร หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตได้มอบที่นาให้น้องชายทำมาหากิน จำนวน 3 ไร่เศษ น้องชายเป็นคนขยัน ปลูกข้าว ปลูกมันสำปะหลัง ปลูกพืชผักสวนครัวเก็บไปขายส่งให้แม่ค้าตามตลาด
“น้องชอบดื่มเหล้า เคยเตือนเขาว่าให้หยุดดื่มและไม่ให้มาหาปลาตามลำพัง เพราะมีโรคประจำตัว มีอาการวูบบ่อยครั้ง เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนมาหาน้องชายที่บ้านแต่ไม่พบ ถามเพื่อนบ้านและคนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครเห็น ออกติดตามทั้งวันทั้งคืน เมื่อวานตอนเช้าตนยังมาลงตาข่ายจับปลาในคลองหูอึ่ง ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันที่พบศพน้องชาย แต่ก็ไม่เห็นศพน้อง เช้าวันนี้ขณะที่ตนกำลังกู้ตาข่ายดักปลา ได้กลิ่นเหม็นโชยมาเป็นระยะ และเห็นศพน้องลอยขึ้นมา รู้สึกตกใจรีบวิ่งไปโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ”
ภาพ/ข่าว วัฒน์พล ช้างรักษา ข่าวไทยรัฐอุดรธานี
