เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 กันยายน 2565 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการรตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ด.ช.วรวุฒิ ยอดดี หรือตั้ม อายุ 14 ปี เข้าลำคอ 1 นัด เสียชีวิต และ ด.ช.อัครชัย ทาสะโก หรือภูมิ อายุ 14 ปี เข้าหลังทะลุหน้าอก 1 นัด บาดเจ็บสาหัส นักเรียนชั้น ม.2 ร.ร.บ้านพันดอน (รร.กีฬา อบจ.อุดรธานี) ชาวบ้านสี่แจ ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี บริเวณ ถ.มิตรภาพขาออกตัวเมืองอุดรธานี ก่อนถึงจุดกลับรถบ้านหนองผึ้ง ต.พันดอน อ.กุมภวาปี 200 ม. เหตุเกิดเวลา 19.46 น. วันที่ 5 กันยายน 2565
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ร่วมตรวจสอบการเก็บวัตถุพยานหลักฐาน และจำลองเหตุการณ์ โดยมี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ,พ.ต.อ.บรรจบ สีหานาวี ผกก.สอบสวน ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สืบสวน.ภ.จ.อุดรธานี และ พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันให้ข้อมูลสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ หลังจากนั้นคณะฯ ได้เดินทางไปประชุมสรุปข้อมูลร่วมกัน ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.กุมภวาปี
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ และกลุ่มเพื่อน ได้จับกลุ่มนั่งเล่นกันอยู่ที่หน้าโรงเรียนบ้านสี่แจ หลังจากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาด้วยกัน 2 คัน คันละ 2 คน ผู้เสียชีวิตเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125 อาร์ สีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์อีกคันเป็นเพื่อนรุ่นพี่ 2 คน ชื่อใต้และเวฟ อายุ 16 ปี มุ่งหน้าขับสวนเลนมาทาง อ.กุมภวาปี มาที่จุดกลับรถบ้านห้วยผึ้ง จุดเกิดเหตุ เพื่อจะใช้เส้นทางแยกบ้านหนองผึ้ง-น้ำฆ้อง ไปเที่ยวเล่นกันที่บ้านน้ำฆ้อง
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชายไม่ทราบอายุ ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน สวมเสื้อผ้าสีดำ สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ใช้อาวุธปืน 11 มม. โดยที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 5 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว ขณะที่กลุ่มผู้ตายและผู้บาดเจ็บ มีพฤติการณ์จุดประทัดและโยนลงพื้นถนน ส่วนผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์มาจาก อ.กุมภวาปี มุ่งหน้าไปทางขาเข้า จ.อุดรธานี ก่อนมาถึงจุดกลับรถ และขับข้ามสวนเลนเพื่อไปที่แยกบ้านหนองผึ้ง-น้ำฆ้อง คาดว่าเป็นจังหวะที่กลุ่มผู้ตายและผู้บาดเจ็บมาเจอกับผู้ก่อเหตุ จนเกิดการยิงกันขึ้น ส่วนเพื่อนรุ่นพี่ที่มาด้วยกันขับรถหนีไป ผู้ก่อเหตุหลบหนีไปทาง ถ.บ้านหนองผึ้ง-น้ำฆ้อง
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า การสืบสวนเราได้พยานไปแล้ว 3 ปาก มี เราทราบชนิดและขนาดอาวุธปืนแล้ว ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญในการระบุตัวผู้ก่อเหตุ จะได้นำมาประกอบกับหลักฐานจากภาพวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆในพื้นที่ เด็กที่ตายไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ผู้ตายและผู้บาดเจ็บมีพฤติกรรมคึกคะนอง มีการประกอบประทัด คล้ายกับระเบิดปิงปอง ก่อนเกิดเหตุมีการจุดโยนมาตามทาง แต่ก็ยังไม่มีพยานที่ระบุได้ว่ามีเหตุขัดแย้งมาตามรายทาง ตรงนี้ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง แต่มีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นเหตุซึ่งหน้าได้ ….
