ปตท.สผ.เฮ เจาะก๊าซหลุ่ม 14 แหล่งสินภูฮ่อม ทางขึ้นภูฝอยลม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ประสบความสำเร็จ จุดไฟเผาก๊าซ 4วัน วัดปริมาณสูงสุดวันละ 33 ล้าน ลบ.ฟุต
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่หลุมเจาะก๊าซธรรมชาติ PH 14 ฐาน D ริมถนนทางขึ้นไปยังแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ภูฝอยลม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายไพบูลย์ รัตนะเจริญธรรม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 10 อุดรธานี พร้อมคณะ เดินทางขึ้นไปตรวจติดตามความคืบหน้า การขุดเจาะและการเผาก๊าซที่พบ เพื่อทดสอบปริมาณก๊าซที่ได้ โดยมีนายจิรายุ กระจ่างบ้าน เจ้าหน้าที่สนับสนุนองค์กรสัมพันธ์ ปตท.สผ.โครงการสินภูฮ่อม นำคณะวิศวกรโครงการฯ สังเกตการณ์หน้าฐานเจาะ พร้อมชี้แจงและตอบข้อซักถาม
โดยบริเวณ ฐาน D มีการตั้งแท่นเจาะเป็นหอสูง อยู่บนเนินดินด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รายล้อมด้วยอุปกรณ์ที่อยู่ด้านล่าง ส่วนท่อเผาก๊าซหรือแฟลร์ก๊าซสูง 34 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ห่างจากแท่งเจาะราว 100 เมตรเศษ ปลายด้านบนของท่อเผาก๊าซ มีเปลวไฟขนาดใหญ่สูงมากกว่า 10-15 เมตร พุ่งออกมาตลอดเวลา เกิดเป็นไอร้อนมาสัมผัสผิวหนังรู้สึกได้ อีกทั้งมีกลิ่นเหมือนไอน้ำมันบางๆ และมีเสียงดังเหมือนคำราม จนไม่สามารถพูดคุยกันตามปกติได้ จะต้องใช้การพูดกรอกหู และให้เครื่องขยายเสียงช่วย
นายจิรายุ กระจ่างบ้าน เจ้าหน้าที่สนับสนุนองค์กรสัมพันธ์ และวิศวกรโครงการฯ ชี้แจงว่า การขุดเจาะที่ฐาน D ใช้เวลาเพียง 1 เดือน ถึงชั้นก๊าซในความลึก 2,655 เมตร ก๊าซที่ออกมาจะถูกเผาต่อเนื่อง 24 ชม. ทั้งกลางวันกลางคืน โดยการเผาเป็นแบบสมบูรณ์ไม่มีควัน มีเพียงคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม การเผาดำเนินการมาถึงวันนี้รวม 4 วัน มีปริมาณก๊าซเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สูงสุดมีปริมาณก๊าซออกมา 33 ล้าน ลบ.ฟุต ต่อวัน ซึ่งถือเป็นระดับปริมาณค่อนข้างมาก ขณะนี้อยู่ในช่วงที่จะปิดวาวก๊าซข้างล่าง เพื่อให้สิ้นสุดการเผาในวันนี้
เราหยุดเจาะไม่เจาะลงไปลึกกว่านี้อีกแล้ว จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการถอนท่อเจาะ ระหว่างนั้นหากมีก๊าซค้างในท่อ แล้วไหลออกมาทางปล่องเผา ก๊าซจะถูกจุดให้เผาแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะเกิดการเผาเป็นช่วงๆแต่ปริมาณไม่มาก คาดว่าจะถอดท่อแล้วเสร็จวันที่ 9 สิงหาคมนี้ จากนั้นก็จะเป็นการเตรียมหลุมให้สมบูรณ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตในอนาคต เสร็จแล้วราววันที่ 12 สิงหาคมนี้จะเป็นการรื้ออุปกรณ์แท่นเจาะ ทำการขนย้ายทั้งหมดออกจากพื้นที่ไป จ.กำแพงเพชร คาดว่าจะใช้เวลาอีกราว 7-10 วัน
นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี สอบถามถึงการเฝ้าระวังผลกระทบ ได้รับคำตอบว่า ฐาน D อยู่ในบริเวณชุมชนสังเกตเห็นได้ชัดเจน เพราะตั้งอยู่บนภูเขาตัวอำเภอ ต่างจากฐานอื่นที่เคยเจาะ จะอยู่ภูเขาอีกด้าน ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน 17 หมู่บ้าน จัดทีมเฝ้าติดตามตลอด 24 ชม. พร้อมกับเครื่องมือตรวจวัด อากาศ , น้ำผิวดิน , น้ำใต้ดิน และแมลง ตั้งแต่ก่อนการเผาก๊าซ และมีการตรวจเก็บระหว่างเจาะ และหลักเจาะอีกครั้ง ซึ่งโดยธรรมชาติก๊าซที่ออกมาคือ “มีเทน” ไม่มีกลิ่นเมื่อเผาจะเหลือเพียงคาร์บอนได้ออกไซด์ จะมีปัญหาที่รับมาเป็นเรื่องความรู้สึก อาทิ เสียงของก๊าซที่พุ่ งออกมาดัง และแสงไฟที่เกิดจากการเผา ทำให้เกิดแสงสว่างบริเวณนี้และโดยรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การเจาะก๊าซแหล่งสินภูฮ่อมมี 4 ฐาน ฐาน A ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เจาะไปแล้วได้ก๊าซ 2 หลุม ซึ่งเป็นฐานรวมท่อก๊าซก่อนส่งไป อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ระยะทาง 64 กม. , ฐาน B ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี เจาะไปแล้วได้ก๊าซ 3 หลุม , ฐาน C ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี เจาะไปแล้วได้ก๊าซ 6 หลุม ขณะนี้ทั้ง 11 หลุมใน 3 ฐาน ได้ส่งก๊าซไปโรงแยกก๊าซ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เพื่อส่งต่อไปผลิตกระแสไฟฟ้าประมาณ 100 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน สำหรับฐาน D อยู่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี เคยเจาะไปแล้ว 1 หลุม เมื่อ 20 ปีก่อนแต่ไม่ได้นำขึ้นมาใช้ ครั้งนี้เจาะเพิ่มอีก 1 หลุมและพบก๊าซสูงสุด 33 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนต่อท่อไปยังฐาน A เพื่อส่งต่อไป อ.น้ำพอง .จ.ขอนแก่น….