วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมหนุ่ม32โต้ไม่ได้หลอกสาวแม่ลูกอ่อนยันไม่รู้ว่า16ปี

หนุ่ม32โต้ไม่ได้หลอกสาวแม่ลูกอ่อนยันไม่รู้ว่า16ปี

จากกรณีหญิงสาวแม่ลูกอ่อน อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า ถูกนายเคนโด้ หนุ่มสกลนคร อายุ 32 ปี อ้างทำงานเป็นฝ่ายไอที ของธนาคารแห่งหนึ่ง หลอกจะเลี้ยงดู แต่อยู่ได้เพียง 5 วัน ก็ถูกไล่ให้กลับบ้าน โดยมีผู้เป็นตา อายุ 60 ปี เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร มาร่วมให้ปากคำ เหตุเกิดเมื่อระหว่างวันที่ 1 – 6 กุมภาพันธ์ 2566 ล่าสุดนายเคนโด้ออกมาโต้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กันจริง แต่ไม่ได้หลอกลวง หรือบังคับขู่เข็ญ และไม่ทราบว่าผู้หญิงอายุเพียง 16 ปี สงสารและอยากเลี้ยงดูจริง พร้อมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นตามกระบวนการของกฎหมาย

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายเคนโด้ อายุ 32 ปี คู่กรณีที่ถูกกล่าวหา เพื่อรับทราบข้อมูลอีกด้าน นายเคนโด้ เปิดเผยว่า ตนเป็นคน จ.สกลนคร ทำงานฟรีแลนซ์ รับจ๊อบร้องเพลงบ้าง มีเพื่อนเป็นดนตรีจริง ไม่ได้รับปากว่าจะพาไปร้องเพลง ไม่เคยรับปาก ไม่ได้ทำงานธนาคารโดยตรง แต่ทำงานด้านไอทีเป็นเอาท์ซอร์ซ ให้กับธนาคารเท่านั้น มีหัวหน้างานจ่ายงานที่ชัดเจน ตนจะเดินสายไปตามจังหวัดต่างๆ ตามแต่ที่หัวหน้างานจ่ายงานมา เริ่มแรกที่รู้จักกับ น.ส.เอ หญิงคนนี้ เนื่องจากตนรู้จักกับคนคนหนึ่งที่ จ.ขอนแก่น แล้วถูก น.ส.เอ โกงเงิน หลังจากสั่งซื้ออาหารทะเลแล้วไม่ได้ของ เหตุเกิดช่วงเดือนมกราคม เรื่องนี้ตนมีพยานชัดเจน

“ตนเลยพยายามติดต่อ น.ส.เอ เพื่อเคลียร์เรื่องนี้ คุยกันผ่านทางเฟซบุ๊ค ก่อนขอไอดีไลน์คุยกัน คาดคั้น น.ส.เอ จนยอมรับว่าโกงจริง เพราะไม่มีของทะเลตามที่กล่าวอ้าง ตนก็ให้ข้อคิด บอกให้เลิกพฤติกรรม เพราะรู้มาว่ายังมีผู้เสียหายอีกนับสิบคน คุยจนสนิทกันระดับหนึ่ง น้องเขาก็บอกว่าต้องหาเงินมาเลี้ยงลูก ไม่มีงานทำ ตนจึงเสนอไปว่า ให้มาหาที่ จ.อุดรธานี จะออกค่าใช้จ่ายให้สัปดาห์ละ 4,000 บาท เพื่อรอจังหวะหางาน น้องเขาก็มาหาตามที่ชักชวน อยู่ด้วยกันที่โรงแรมจริง ยอมรับว่ามีอะไรกัน ช่วงที่อยู่ด้วยกันก็ปกติไม่มีเหตุการณ์อะไร ตนพาออกไปกินข้าว ซื้อเสื้อผ้าให้น้องเขา และลูกของเขาด้วย”

นายเคนโด้ เปิดเผยอีกว่า ตอนแรกก็ได้โทรคุยกับผู้ใหญ่ของน้องแล้ว ว่าตนพาน้องมาอยู่ด้วย ตนพร้อมดูแลน้องทุกอย่าง ไม่ให้มีปัญหา จนผ่านมาประมาณ 3 – 4 วัน สามีเก่าของน้องเขา โทรศัพท์มาที่โรงแรม แจ้งว่าตนพาภรรยาเขาเข้าโรงแรม ผู้จัดการโรงแรมโทรหาตนว่าเกิดปัญหานี้ขึ้น ตนจึงบอกน้องเขาไปว่าให้กลับไปเคลียร์เรื่องนี้กับสามีเก่าให้เสร็จก่อน เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาบานปลาย น้องเขาก็ออกไป ผ่านมาแค่ 1 วัน ก็มีตำรวจมาที่โรงแรม มาแจ้งว่าเขาแจ้งความที่โรงพักแล้ว และบอกว่าน้องเขาอายุเพียง 16 ปี ซึ่งตนก็เพิ่งจะทราบตอนนั้นเอง โรงแรมนั้นจึงเชิญตนออก และตนก็มาพักโรงแรมที่ปัจจุบันนี้ เงินเลี้ยงดู 4,000 บาท ที่ตกลงยังไม่ได้ให้ไป แต่ตนก็เสียเงินค่าดูแลระหว่างที่อยู่ด้วยกันไปแล้วเกือบ 1 หมื่นบาท

“หลังเป็นข่าวออกไป ตนรู้สึกตกใจมาก พูดอะไรไม่ออก ตนมองว่าคนที่ให้ความช่วยเหลือ ทำไมต้องกลับมาทำกันแบบนี้ ก่อนไปแจ้งความทำไมไม่คุยกันก่อน ที่อ้างว่าตนลบแชตในไลน์ ตนก็ไม่ได้ทำ การพูดคุยที่เป็นหลักฐานยังอยู่ในเครื่องตนทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้หลอกลวง ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญ ที่ทำไปทั้งเพราะสงสารน้องเขา อยากดูแลน้องเขาจริงๆ ไม่ได้ไล่ให้กลับบ้าน เพียงแต่บอกว่าให้ไปเคลียร์ปัญหากับสามีเก่าเท่านั้น ทำไมไม่คุยกับตนดีดีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกจะเรียกร้องค่าเสียหาย ตนช่วยเหลือมาตลอดมันหมายความว่าอย่างไร ก็ต้องยอมรับผิดไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ตนก็ต่อสู้ทางคดีให้ถึงที่สุดเช่นกัน พรุ่งนี้จะเข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเวลาประมาณ 10.00 น. ที่สภ.เมืองอุดรธานี”

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments