ครั้งแรกของ สภา ทน.อุดร ไม่ผ่านญัตติ “นายกหรั่งขอใช้เงินสะสม” 2 ญัตติ 50.4 ล้าน ปธ.สภาฯตัดสินหลังคะแนน 12/12
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลนครอุดรธานี ในการประชุมสภาเทศบาลนครอุดรธานี สมัยสามัญ สมัยที่ 3 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 นายธนดร พุทธรักษ์ นายก ทน.อุดรธานี ได้เสนอญัตติต่อสภาฯ 9 ญัตติ โดยสภาฯผ่านความเห็นชอบไป 7 ญัตติ ประกอบด้วย แก้ไขเปลี่ยนแปลงงบฯ โอเวอร์เลย์ถนนวงเวียนน้ำพุ-อนุสาวรีย์กรมหลวงฯ 1.7 ล้าน , แก้ไขเปลี่ยนแปลงงบฯ ครุภัณฑ์รถตู้โมบายเคลื่อนที่งานบัตรประชาชน 2.5 ล้านบาท , จ่ายขาดเงินสะสมปรับปรุงถนน(โอเวอร์เลย์) ประชาสันติ 5-ทางพาดรถไฟ 2.2 ล้านบาท , จ่ายขาดเงินสะสมทางระบายน้ำ 3 สาย 10.3 ล้านบาท และจ่ายขายเงินสะสมซื้อรถให้โรงฆ่าสัตว์ 1 ล้านบาท
ส่วนอีก 2 ญัตติ ประกอบด้วย ญัตติที่ 63 จ่ายขาดเงินสะสม เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการจราจร และจัดการความปลอดภัย สำหรับผู้ใช้ถนนบริเวณกลุ่มทางแยก ถ.ประจักษ์ฯ (Adaptive Signal Contron) 29.8 ล้านบาท และญัตติที่ 66 เพื่อจ่ายเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ ยานพาหนะและขนส่ง วงเงิน 20.6 ล้านบาท กลับไม่ได้รับความเห็นชอบ ซึ่งเป็นครั้งแรกของ “สภา ทน.อุดรธานี” ในสมัยนายธนดร พุทธรักษ์ เป็นนายก ทน.อุดรธานี โดยในการลงคะแนนในสภาฯ มีเสียงสนับสนุนและคัดค้าน เท่ากับคือ 12 เสียง ซึ่งการลงคะแนนครั้งแรก ประธานสภา ทน.อุดรธานี ไม่เห็นด้วยกับญัตติ ทำให้สภาฯต้องขอความเห็นประธานสภาฯอีกครั้ง ประธานสภาฯก็ไม่เห็นชอบ ทำให้ญัตติทั้งสองไม่ผ่านในลักษณะเดียวกัน
โดยนายธนดร นายก ทน.อุดรธานี และฝ่ายบริหาร เสนอญัตติที่ 63 เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการจราจร และจัดการความปลอดภัย สำหรับผู้ใช้ถนนบริเวณกลุ่มทางแยก ถ.ประจักษ์ฯ (Adaptive Signal Contron) ด้วยงานระบบควบคุมไฟจราจรอัตโนมัติ และงานปรับปรุงกายภาพ วงเงิน 29.8 ล้านบาท เตรียมเมืองรองรับงาน “มหกรรมพืชสวนโลก”
เนื่องจากเป็นถนนสายสำคัญ ผ่านทางแยกที่ตัดกับถนนสายสำคัญได้แก่ ถนนทองใหญ่ , สายอุทิศ , สุรการ-อดุลยเดช , สี่ศรัทธา , หมากแข้ง และพรานพร้าว เพื่อลดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เกิดความคล่องตัวในการสัญจร เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเสนอญัตติที่ 66 จัดซื้อครุภัณฑ์ ยานพาหนะและขนส่ง 5 คัน ประกอบด้วย รถน้ำแรงดันสูง 1 คัน (ล้างตลาด+ล้านถนน+อื่นๆ) , รถกวาดดูดฝุ่น 6 ล้อ และรถบรรทุกขยะ(อินทรีย์)ขนาด 1 ตัน 3 คัน วงเงิน 20.6 ล้านบาท ให้สำนักสาธารณะสุขและสิ่งแวดล้อม เพื่องานตามอำนาจหน้าที่
ขณะสมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานี ที่ไม่เห็นด้วยได้ตั้งข้อสังเกต ญัตติที่ 63 ว่า งบประมาณสูงมากกว่าจุดละ 5 ล้านบาท รวมเกือบ 30 ล้านบาท แต่ยังขาดรายละเอียดสำคัญ ทั้งระบบที่จะนำมาใช้ และงานด้านกายภาพที่ไม่ชัดเจน , ได้มีการศึกษาความจำเป็นและความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ทน.อุดรธานีเคยมีการศึกษาทางวิชาการไว้แล้วน่าจะนำมาใช้ , และถนนสายนี้ไม่มีปัญหาด้านการจราจร ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนต้องใช้เงินสะสม ขณะที่ถนนโพศรีมีความคุ้มค่ามากกว่า
ส่วนญัตติที่ 66 ก็ตั้งข้อสังเกตว่า ญัตติฯไม่มีเอกสารแนบท้ายให้พิจารณา , น่าจะแยกญัตติประเภทรถออกจากกัน , แผนการจัดหารถขยะ(อินทรีย์) 3 คัน เป็นปี 67 ยังไม่น่าจะเร่งรีบ ขณะเดียวกันเครื่องกำจัดขยะอินทรีย์ยังไม่จัดซื้อ , รถที่ใช้งานอยู่น่าจะเพียงพอทั้งรถน้ำมีอยู่ 3 คัน และรถกวาดดูดฝุ่นที่มีอยู่ 4 คันใช้งานได้อยู่แล้ว และห่วงการเพิ่มอัตรากำลังคนขับ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าซ่อมบำรุง จะต้องเพิ่มขึ้น รวมไปถึงขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 เดือน จะสามารถจัดซื้อจัดจ้างทันหรือไม่
นายไกรสิทธิ์ พุฒธรรม ประธานสภา ทน.อุดรธานี กล่าวว่า ญัตติที่เสนอเข้าสู่ สภา ทน.อุดรธานี เป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารพิจารณาว่าเหมาะสม แต่เมื่อสภา ทน.อุดรธานี มีความเห็นไม่ผ่านความเห็นชอบ ที่อาจจะเกิดจากความยังไม่ชัดเจน หรืออื่น ๆ และหากฝ่ายบริหารยังเห็นว่าเหมาะสม หรืออาจจะมีการปรับปรุงแก้ไข ก็สามารถนำเข้าให้สภา ทน.อุดรธานีพิจารณอีกครั้ง แต่ต้องเป็นการประชุมสมัยต่อไป
นายธนดร พุทธรักษ์ นายก ทน.อุดรธานี กล่าวว่า ยึดมั่นในระบบสภาฯมาตลอด โดยยอมรับว่าญัตติที่เสนอมาในวันนี้ อาจจะมีรายละเอียดไม่เพียงพอ แต่ยืนยันว่าโครงการมีความจำเป็น โดยจะนำกลับมาให้สภา ทน.อุดรธานี พิจารณาอีกครั้งในการประชุมสภาสมัยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภา เทศบาลนครอุดรธานี มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 นายธนาดร พุทธรักษ์ กลุ่มรักษ์อุดร ได้รับชัยชนะด้วยคะแนน 22,986 คะแนน ส่วนนายอิทธิพล ตรีวัฒนสุวรรณ อดีตนายก 2 สมัย จากกลุ่มนครหมากแข้ง ได้ 19,184 คะแนน แต่สำหรับสมาชิกสภาฯ กลุ่มรักษ์อุดร ได้ 7 ที่นั่ง ส่วนกลุ่มนครหมากแข้ง ได้ 17 ที่นั่ง
หลังจากสภาฯเลือกนายไกรสิทธิ์ พุฒธรรม จากกลุ่มนครหมากแข้ง เป็นประธานสภาฯ นายธนาดร พุทธรักษ์ กลุ่มรักษ์อุดร แถลงนโยบายต่อสภาฯ และทำหน้าที่นายก ทน.อุดรธานี สมาชิกของกลุ่มนครหมากแข้ง จากเขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 4 คน และเขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน 2 คน ได้มาให้การสนับสนุนนายธนดรฯ ซึ่งหากเป็นการเมืองระดับประเทศเขาเรียกว่า “งูเห่า” แต่ในอดีตใช้คำแรงมากกว่านี้
เมื่อสมาชิกสภา 6 คน ย้ายค่ายมาอยู่ “กลุ่มรักษ์อุดร” ก็ทำให้มีเสียงรวมกันเป็น 7+6=13 กลุ่มนครหมากแข้งก็จะเหลือ 11 คน จึงมีคนตั้งคำถามว่าแล้วทำไม จึงกลับมาเป็น 12 คะแนน เมื่อลงดูรายละเอียดพบชื่อของ นายนัธทวัฒน์. ไกรศรีวรรธนะ สท.นครอุดรธานี “นักการเมืองหนุ่ม” ที่สมัครรับเลือกตั้งในนามกลุ่มรักษ์อุดร แต่ที่ผ่านมามีการอภิปรายตั้งข้อสังเกต และไม่เห็นด้วยกับหลายโครงการ โดยเฉพาะญัตติการขอกู้เงิน และมาครั้งนี้ก็อภิปรายไม่เห็นด้วยกับ 2 ญัตตินี้…