เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ขณะที่ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มีนายใหญ่ นามสมมติ อายุ 60 ปี ชาวสมุทรสาคร นำ น.ส.เอ นามสมมติหลานสาว วัย 16 ปี เข้าแจ้งความว่า น.ส.เอ โดนนายเคนโด้ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุ 32 ปี ชาวสกลนคร หลอกลวงมาหาและอยู่ด้วยกันที่โรงแรม แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และมีความสัมพันธ์กัน เป็นเวลา 5 วัน ก่อนจะไล่ให้หลานสาวตนกลับบ้าน เหตุเกิดวันที่ 1- 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา
นายใหญ่ ให้การว่า น.ส.เอ เป็นลูกของลูกสาวคนโต พ่อและแม่เสียชีวิต ตนจึงนำ น.ส.เอ กับพี่ชายมาเลี้ยง พออายุ 15 ปี น.ส.เอ ได้แต่งงานมีครอบครัว ผ่านไป 1 ปี ทั้งสองได้แยกทางกัน น.ส.เอ จึงเลี้ยงดูลูกวัย 11 เดือนอยู่ที่บ้านตน ส่วนน.ส.เอ ขายอาหารทะเลทางเฟซบุ๊ก ต่อมาวันที่ 1 กุมภาพันธ์ น.ส.เอ ได้หายออกจากบ้านพร้อมลูกสาว ติดต่อไม่ได้เพราะปิดโทรศัพท์ ตนรู้สึกเป็นห่วงหลานมากจึงออกตามหาที่บ้านสามีเก่า และเพื่อนๆ แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น กระทั่งวันที่ 5 กุมภาพันธ์ หลานสาวได้โทรศัพท์มาหาบอกว่าอยู่ที่ จ.อุดรธานี และอยากกลับบ้านตนจึงได้ขับมารับ
เช้าวันนี้ได้เดินทางมาถึง จ.อุดรธานี ก็พบ น.ส.เอ และลูกสาว พักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งใกล้ บขส.แห่งที่ 1 ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยพักอยู่กับนายเคนโด้ ซึ่งนายเคนโด้ ไม่ยอมออกมาพูดคุยกับตนซึ่งเป็นผู้ปกครอง ของ น.ส.เอ ตนจึงสอบถามเรื่องราวจากหลานสาว จึงรู้ว่าถูกหลอกมา จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายเคนโด้จนถึงที่สุด
น.ส.เอ เล่าว่า หลังแยกทางกับสามีเก่า ตนพาลูกสาววัย 11 เดือนมาอยู่กับคุณตา โดยตนมีรายได้จากการขายอาหารทะเลทางเฟซบุ๊ก ซึ่งตนได้รู้จักกับน้องสาวนายเคนโด้ทางเฟซบุ๊ก ต่อมา เดือนมกราคม 2566 ตนได้รู้จักกับนายเคนโด้ จากนั้นได้คุยกันผ่านไลน์ โดยนายเคนโด้อ้างว่าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ไอทีธนาคารแห่งหนึ่ง และจะเดินทางไปทั่วอีสาน และมีความสามารถด้านดนตรี และมีวงดนตรี ซึ่งตนชอบร้องเพลงอยู่แล้ว อยากมาทำงานเป็นนักร้อง จึงได้พูดคุยกัน ซึ่งนายเคนโด้ได้พูดคุยกับตนในลักษณะชู้สาว และได้ชวนตนมาอยู่ที่ จ.อุดรธานี ด้วยกัน โดยจะให้เงินตนใช้สัปดาห์ละ 4,000 บาท
ตนหลงเชื่อจึงตอบตกลง นายเคนโด้ได้ซื้อตั๋วรถทัวร์โดยสารให้ตนและลูกเดินทางมา และพักอยู่ที่โรงแรมด้วยกัน และมีความสัมพันธ์กัน แต่พอมาอยู่ได้เพียง 5 วัน สามีเก่าโทรมาหาบอกว่าคุณตาและคนทางบ้านเป็นห่วง นายเคนโด้จึงระแวงว่าตนจะกลับไปหาสามีเก่า จึงบอกให้ตนกลับบ้าน โดยจะ ไม่รับผิดชอบและไม่ให้เงินตามที่สัญญากันไว้ ตนรู้สึกเสียใจ คิดว่าถูกนายเคนโด้หลอกให้มาเพื่อมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้น จึงโทรหาให้คุณตาให้มารับ ตนกับลูก กลับบ้าน
“อยากเตือนเด็กสาว อย่าเชื่อใครที่อยู่รู้จักผ่านทางโลกโซเชียล อย่าตัดสินคนง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินที่เสนอมาว่าจะให้เท่านั้น เท่านี้ ถ้ายังเป็นเด็กก็ให้เรียนหนังสือไป เพราะตนพลาดโอกาสเรื่องการเรียน ซึ่งตนยังเสียดาย โชคดีที่ตนยังโทรติดต่อกลับไปหาญาติให้มารับได้”
พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี หลังสอบสวนปากคำเสร็จ ได้นำ น.ส.เอ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อหาร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อรวบรวมหลักฐาน และพยาน ในการดำเนินคดีกับนายเคนโด้ ตามกฎหมายต่อไป