จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Prasit BoonIue โพสต์คลิปลงในเพจแจ้งข่าวชาวนาพู่ โดยคลิปและข้อความระบุว่า ..หนุ่มนาพู่ก่อเหตุชิงทรัพย์และทำร้ายพระที่บ้านโคกน้อย ชาวบ้านโคกน้อยและหนองนกเขียน ไล่ตามจับตัวนายศักดิ์ ชาวบ้านนาพู่ อ เพ็ญ จ.อุดรธานี หลังจากก่อเหตุชิงทรัพย์ และทำร้ายด้วยการใช้มีดพร้าฟันที่ไหล่ของหลวงปู่ธง พระวัดโคกน้อย ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และชิงเงินปัจจัย จำนวน 5,049 บาท หลังก่อเหตุแล้วปั่นจักรยานหนีมาตามถนน โดยชาวบ้านได้ตามช่วยกันจับตัวได้ที่เส้นทางหนองนกเขียน-ดอนหมากแก้ว ต.นาพู่ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร เวลา 16.30 น.วันที่ 6 ก.พ.66
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 พ.ต.อ.กานต์ ตั้งวิจิตร ผกก.สภ.เพ็ญ พ.ต.ท.ณภัทร จูมวันทา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เพ็ญ พ.ต.ท.บุญจันทร์ ไชยชาติ สว.สอบสวน สภ.เพ็ญ ร่วมกันสอบปากคำผู้ก่อเหตุคือ นายธีระศักดิ์ อ่อนตาจันทร์ หรือศักดิ์ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 43 ม.12 บ.นาพู่ ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พร้อมของกลางอาวุธมีดพร้ายาว 40 ซ.ม. 1 ด้าม จักรยานสีน้ำเงิน 1 คัน และเงินสด จำนวน 5,049 บาท ตรวจสอบปัสสาวะพบเป็นสีม่วง
พ.ต.อ.กานต์ ตั้งวิจิตร ผกกงสภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า คนร้ายสารภาพว่าก่อเหตุทำร้ายหลวงปู่จริง แต่ให้การวกวนและไม่ค่อยรู้เรื่อง อ้างเข้าไปตรวจสอบภายในกุฏิว่ามีสีกาอยู่ด้วยหรือไม่ ก่อนย่องขึ้นไปกุฎิขโมยเงินสดในย่าม ขณะหลวงปู่ฯกำลังกวาดลาดวัด เมื่อหลวงปู่ฯมาเห็นได้ขอเงินที่ญาติโยมนำมาถวายคืน แต่นายศักดิ์ฯได้นำไม้ยูคาข้างกุฏิตีที่ท้ายทอยหลวงปู่ และใช้มีดพร้าสภาพเก่าของวัดที่วางอยู่บนแคร่ใต้ถุนกุฏิ ฟันหัวไหล่หลวงปู่ฯได้รับบาดเจ็บ ก่อนคนร้ายปั่นจักรยานหลบหนีไป หลวงปู่ได้ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ผ่านไปมา เข้าควบคุมตัวพร้อมของกลางเอาไว้ได้
“ นายศักดิ์ฯ เคยถูกจับกุมตัวในข้อหายาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง และคดีลักเล็กขโมยน้อยของชาวบ้าน ตามหมู่บ้านในพื้นที่ ต.นาพู่ แต่ผู้เสียหายไม่ติดใจ เนื่องจากเห็นว่านายศักดิ์เป็นคนสติไม่ดี หรือเพี้ยน สาเหตุมาจากติดเสพยาบ้ามานานหลายปี จนมีอาการทางประสาทที่ผิดเพี้ยน ก่อนมาก่อเหตุอุกอาจที่เป็นภัยต่อสังคม จึงแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ , ทำร้ายร่างกายผู้อื่น , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย , พกพาอาวุธมีดไปตามหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบสวนพระธง ธรรมทีโป เจ้าอาวาสวัดสามัคคีศิริมงคลธรรม ให้การว่า ในวัดมีอาตมาจำพรรษาอยู่เพียง 1 รูป และลาบวชมาได้ 23 พรรษา ขณะอาตมาทำกิจของสงฆ์ กำลังกวาดลานวัด เห็นคนร้ายเดินไปที่กูฏิ และขึ้นไปขโมยย่ามภายในห้องนอน จึงได้เดินตามขึ้นไป คนร้ายใช้มีดพร้าที่วางอยู่บนแคร่ใต้ถุนกุฎิ ฟันราวบันไดเพื่อข่มขู่ให้กลัว ก่อนจะเดินนลงมา ส่วนอาตมาก็เดินตามเพื่อจะไปเอาย่ามคืน คนร้ายก็ได้เอาไม้ยูคาที่วางอยู่ข้างกุฏิตีที่ท้ายทอยอาตมา 1 ครั้ง ก่อนที่คนร้ายจะปั่นจักรยานออกจากวัดไป
”อาตมาจึงเดินตามไปถึงประตูโขงหน้าวัด และร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมา แต่คนร้ายได้ยินและได้ปั่นจักรยานย้อนกลับมาที่หน้าประตูโขงหน้าวัด อาตมาเห็นท่าไม่ดี จึงปิดประตูหน้าวัดเอาไว้ เพราะกลัวมีดพร้าที่คนร้ายถือติดมือไปด้วย จากนั้นคนร้ายใช้เท้าถีบประตูเข้ามาจนอาตมากระเด็น คนร้ายได้ใช้มีดพร้าฟันเข้าที่หัวไหล่ด้านขวา โชคดีที่มีดพร้าของวัดไม่มีความคมและเก่า จึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งก่อนหน้านี้หลายเดือนคนร้ายเคยมาที่วัด แต่วันนั้นผู้ใหญ่บ้านอยู่ในวัดพอดี จึงได้ช่วยกันพลักดันออกนอกวัดและพื้นที่ ก่อนที่คนร้ายจะมาก่อเหตุในครั้งนี้”
