วันพุธ, มกราคม 8, 2025
Google search engine
หน้าแรกท่องเที่ยวชมสวนดอกไม้อุดรยาวตลอดมกรา

ชมสวนดอกไม้อุดรยาวตลอดมกรา

ผู้สื่อข่าวรายงานมาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ยังคงเดินทางมาท่องเที่ยว หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ จ.อุดรธานี มีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 2 ของภาคอีสาน รองจาก จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งปลูกไม้ดอกใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน อยู่ห่างจากท่าอากาศยานอุดรธานี 18 กม. ใช้เวลาเดินทางเพียง 22 นาที แม้ในช่วงปีนี้ราคาไม้ตัดดอกจะผันผวน เพราะมีดอกไม้จากต่างประเทศมาแย่งตลาด ทำให้เกษตรกรลดพื้นที่ปลูก “ดอกเบญจมาศ” เพื่อตัดดอกขายลดลง แต่เกษตรกรก็มาปลูกดอกไม้ “เพื่อการท่องเที่ยว” และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ที่สวนดอกไม้ DN ที่มาจากชื่อเจ้าของสวน “อดุลย์-หน่อย” พื้นที่กว่า 30 ไร่ ล้อมรอบด้วยสวนยางพารา ตั้งอยู่ริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน เดินเป็นพื้นที่ปลูกดอกเบญจมาศ , ดอกดาวเรือง และคัพเตอร์ แต่ถูกเปลี่ยนใหม่ให้ด้านหน้า ปลูกผักค้าง อาทิ มะระ , บวบหอม , บวบงู , บวบเหลี่ยม และอื่นๆ ส่วนด้านหลังจะเป็นแปลงปลูกดอกไม้ อาทิ ฟอร์เก็ตมีน็อต สีแดง-ชมพู-ม่วง , มากาเร็ต สีชมพู-ม่วง , ผักเสี้ยนฝรั่ง , ดาวเรือง , ทางตะวัน และล้อมแปลงด้วย “หญ้าน้ำพู” ตรงข้ามแปลงดอกไม้จะเป็นร้านกาแฟ และลานจอดรถ ขณะบริเวณขายตั๋วเข้าชมคนละ 50 บาท ได้นำเอาช่อดอกไม้ , มงกุฎดอกไม้ , พืชผักนานาชนิด และผลิตภัณฑ์ชุมชนมา จำหน่ายให้นักท่องเที่ยวซื้อกลับไปบ้านในราคาถูก

โดยในวันนี้นักท่องเที่ยวไทย และต่างประเทศ (ลาว-จีน-เวียดนาม-ยุโรป-อเมริกา) ทุกเพศทุกวัย ทยอยเดินทางมาด้วยรถส่วนตัว รถเช่า รถบริการท่องเที่ยว เพื่อซื้อตั๋วเข้าชมสวนดอกไม้ ด้วยการเดินตามสะพานไม้ 2 ด้าน เพื่อไปเลือกจุดถ่ายภาพ หรือเซลฟี่ กับสวนดอกไม้ ดอกไม้ และจุดที่จัดเตรียมไว้ถ่ายภาพเช็คอิน ทั้งยังเดินลงไปในสวน ได้สัมผัสใกล้ชิดกับดอกไม้ ก่อนกลับก็จะแวะมาเลือกซื้อดอกไม้-พืชผัก ของฝากจากบ้านห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ ในราคาถุงละ 20 บาท หรือ 3 ถุง 50 บาท เมื่อเทียบกับปริมาณ ราคาจะถูกกว่าตลาด 50 % ซึ่งเป็นการนำพืช-ผัก มาวางขายเป็นปีแรก และได้รับการตอบรับดีกว่าดอกไม้

นางพรรัตน์ดา วังขิรี หรือเจ๊หน่อย อายุ 49 ปี เจ้าของสวนดอกไม้ DN คาเฟ่ เปิดเผยว่า เดิมชาวบ้านห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ มีอาชีพปลูกดอกไม้ตัดขายส่งเป็นอาชีพหลัก และปลูกพืชผักสวนครัวขายเป็นอาชีพเสริม ตนทำสวนดอกไม้และร้านกาแฟ เป็นจุดเช็คอินให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายภาพสวยๆ ช่วงหน้าหนาวของทุกปี และช่วงปีใหม่ที่ผ่านมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาว สปป.ลาว และทัวร์ชาวจีน ชาวเวียดนาม มาเที่ยวชมสวนดอกไม้กันเป็นจำนวนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้ตลาดดอกไม้ราคาจะนิ่งกว่าทุกปี จึงปลูกกันน้อยลง เป็นพวกคัทเตอร์ส่วนใหญ่ แต่ดอกเบญจมาศเราไม่ได้ปลูก และหันมาปลูกพืชผักสวนครัวเสริมรายได้ที่หายไป

นักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวสวนดอกไม้ คาเฟ่ของตน ส่วนมากก็จะมาเดินชมและถ่ายรูป และดอกไม้ก็นำไปกินหรือประกอบอาหารไม่ได้และไม่ค่อยซื้อกลับบ้าน ปีนี้จึงมีไอเดียร์ทดลองนำพืชผักสวนครัว ที่เราปลูกเองมาแพ็ควางขายจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชมสวนดอกไม้ เพียงถุงละ 20 บาท ที่ปริมาณมากว่าท้องตลาด เพราะเราปลูกเองไม่ผ่านคนกลาง และขายดีมากด้วย โดยปีหน้าทางสวนจะมีโปรโมชั่นคนที่มาเที่ยว คือจะได้รับคูปองส่วนลดที่ร้านคาเฟ่ และผักสวนครัวที่เรามาวางขาย เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า

“ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมสวนดอกไม้ของเราในช่วงนี้ที่กำลังสวยบานสะพรั่ง ไปจนถึงปลายเดือนมกราคม 2568 ที่มีอากาศหนาวเย็นในช่วงเช้า และเย็นสบายในช่วงกลางวัน อุณหภูมิอยู่ที่ 12-28 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาถ่ายรูปกับดอกไม้ และนั่งจิบกาแฟชมสวนดอกไม้แบบชิวๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดฟินในช่วงหน้าหนาว ”……

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สองสามีภรรยาเจ้าของ “สวน DN คาเฟ่” เกิดและเติบโตที่บ้านห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ เคยไปทำงานประเทศใต้หวัน ในโรงงานอุตสาหกรรม และงานสวนเกษตร 2 รอบ รวม 5 ปี ช่วงปี 2545-2550 เมื่อกลับมาได้เริ่มทำสวนดอกไม้ และสวนผัก โดยนำประสบการณ์ที่ใต้หวัน ระบบดิน-น้ำ-ปุ๋ย มาประยุคใช้จนประสบความสำเร็จ สามารถปลูก-ตัดดอก-ส่งขาย-แบบครบวงจร จนทำสวนดอกไม้เพื่อท่องเที่ยว ทั้งนี้ทายาทยังรักในวิถี “เกษตรกร” ลูกคนโตเป็นลูกชาย จบปริญญาตรี “พืชสวน” ม.แม่โจ้ ได้มาเพิ่มแนวคิดสวนไม้ดอกท่องเที่ยว จนเกิดเป็น “สวนแบงค์เบญจมาส” คนที่สองเป็นผู้หญิง จบปริญญาตรี “พืชสวน” ม.ขอนแก่น ได้กลับมาพลิกฟื้นวิถีชาวบ้าน ในสถานการณ์หลัง “โควิด-19” และราคาไม้ตัดดอกผันผวน ต้นทุนเพิ่ม-ราคาขายลด เกิดภาวะ “การแย่งขาย” จึงกลับมาปลูกพืชผักส่งขาย “ตลาดเมืองทองเจริญศรี” ควบคู่กับการทำสวนดอกไม้ท่องเที่ยว…………

 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments