ชาวบ้านสุดทนถ่ายคลิปวีดีโอระบายความอัดอั้นตันใจลงโซเชียล หลังได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งเงินกู้นอกระบบ ที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนรำคาญภายในชุมชนเป็นประจำ จับกลุ่มนั่งมั่วสุมดื่มสุรา ส่งเสียงดัง ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ปาระเบิดประทัดใส่คู่กรณี จนชาวบ้านในชุมชนต่างหวาดผวา เกรงว่าจะได้รับอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน วอนเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านมั่นคง ชุมชนโพธิ์ทอง เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากนายทรงรัตน์ เนื่องมัจฉา อายุ 46 ปี ชาวบ้านในชุมชนฯ หลังจากมีการถ่ายคลิปวีดีโอเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันในชุมชน มีเสียงตะโกนด่าทอกัน วิ่งไล่ทำร้ายกัน ตามมาด้วยเสียงประทัดประมาณ 2 – 3 ครั้ง ก่อนโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย
โดยมีข้อความว่า “ผมอยากเปลี่ยนที่นี่ ผมเหนื่อยและเบื่อมาก ขอหน่วยงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนนี้ได้ยื่นมือเข้ามา… เริ่มจากขอกล้องวงจรปิดให้ใช้งานได้ และติดเพิ่มในจุดที่ล่อเเหลม เหตุการอุกอาจราวกับว่าบ้านเมืองไม่มีกฏหมาย ยกพวกพร้อมอาวุธจะฆ่ากันเหมือนผักปลา มันก็จะเกินไปวันนี้ผมลุกขึ้นมาแสดงตัวต่อต้านอย่างเต็มตัวและจะเดินหน้าขอการเปลี่ยนแปลงในชุมชน อดทนมานาน10กว่าปีที่ไม่เคยปริปากอะไรเลย รู้ว่ามันเสี่ยงที่รุกขึ้นมาสู้…แต่ก็ลุกขึ้นมาแล้วเป็นไงก็เป็น”
นายทรงรัตน์ฯ เล่าว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นช่วงค่ำของวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากตนออกไปขายของ ตนได้กลับเข้าบ้านเพื่อพักผ่อนตามปกติ แต่ต้องตกใจกับเสียงคนทะเลาะกันอยู่บริเวณหลังบ้าน จังหวะนั้นจึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเหตุการณ์บางส่วนเอาไว้ โดยจะเห็นกลุ่มคนส่งเสียงด่าทอโต้เถียงกัน ตามมาด้วยเสียงวิ่งไล่กัน และมีเสียงประทัดดังอีก 2 – 3 ครั้ง ไม่นานก็มีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ เหตุการณ์จึงสงบลง กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นแก๊งเงินกู้นอกระบบ ที่เข้ามาจับกลุ่มกันมั่วสุมดื่มสุราภายในชุมชน ทะเลาะกับชายสูงอายุในชุมชน
“ความวุ่นวายแบบนี้เกิดขึ้นภายในชุมชนเป็นประจำ ชาวบ้านที่นี่บางส่วนหวาดผวา บางส่วนเอือมระอา ต้องทนอยู่กับสภาพแบบนี้มาตลอด ทั้งเสียงดังจากการกินเหล้าเสียงดัง เสียงทะเลาะวิวาท เสียงประทัด ชาวบ้านต้องการนอนหลับพักผ่อน ต้องการแวดล้อมที่ดีกว่านี้ เยาวชนในชุมชนก็เยอะ มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็ก ในชุมชนมีปัญหาความรุนแรง ปัญหายาเสพติด วอนช่วยติดตั้งไฟส่องสว่าง และกล้องวงจรปิด เพิ่มในจุดที่ล่อแหลม และอยากให้ตำรวจมากวดขันให้มากขึ้น อยากให้เข้ามาตรวจสอบทุกวัน เพื่อป้องปรามเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้”
ต่อมา นายสมยศ คุ้มคัทมาน หรือลุงตี๋ อายุ 62 ปี ชาวชุมชนหมู่บ้านมั่นคง พร้อมลูกสาว ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อ ร.ต.ท.ณัฐวัตร ละดาวัลย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกคู่กรณีที่เป็นแก๊งเงินกู้นอกระบบทำร้ายร่างกาย โดยเล่าให้ฟังว่า ตนอยู่บ้านในชุมชนเพียงลำพัง ลูกสาวไปทำงานที่ต่างจังหวัดกันหมด แก๊งเงินกู้นอกระบบจะมาจับกลุ่มในชุมชนทุกวัน มักจะมาปล่อยเงินกู้ร้อยละ 20 ให้กับคนในชุมชน วันก่อนตนบอกหลานที่รู้จักกับแก๊งเงินกู้ว่า ขอกู้เงิน 200 บาท เพื่อเอาไปกินข้าว เขาโยนเงินให้มา 20 บาท ตนก็โมโห แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“วันต่อมาคือวันเกิดเหตุ ตนก็บอกขอกู้อีก 200 บาท เขาก็ไม่ให้กู้ ตนบอกใจใจหน่อย ให้คนอื่นกู้เป็นหมื่น ตนกู้แค่ 200 ก็ไม่ได้หรือ แก๊งเงินกู้จึงเริ่มมีอารมณ์ ด่าทอตน ตนจึงกลับไปตั้งหลักที่บ้าน ถือมีดรอป้องกันตัวในบ้าน ตอนนั้นเขาก็ยังตะโกนด่า ตนแง้มประตูออกมาเจรจา บอกว่ายังไม่ได้ทำอะไรเลยหนึ่งในนั้นก็ต่อยที่หน้าตนไป 1 ครั้ง จึงรีบปิดประตูทันที ตอนนั้นแก๊งเงินกู้ยังไม่หยุดตะโกนด่า ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ตะโกนห้าม จนตำรวจมาระงับเหตุ วันนี้จึงมาแจ้งความไว้กลัวจะเป็นอันตรายอีก เพราะเขาตะโกนอาฆาตไว้ว่า ไอ่แก่มืงตายแน่”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากการสอบถามเครือข่ายบ้านมั่นคงทราบว่า บ้านมั่นคงในเทศบาลนครอุดรธานีมีหลายชุมชน เป็นโครงการของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ที่ปรับปรุงพื้นที่ชุมชนแออัดหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าสลัม ให้เป็นชุมชนที่มีคุณภาพชีวิตที่ขึ้น แต่ที่สุดแล้วคนในชุมชนก็ยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและความรุนแรง คนในชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง หาเช้ากินค่ำ หลายครอบครัวต้องกู้เงินจากเงินกู้นอกระบบ แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า แก๊งเงินกู้จะมารวมตัวกันอยู่ตามชุมชนลักษณะนี้ ทั้ง เช้า กลางวัน เย็น เพื่อรอเก็บเงินดอกจากชาวบ้าน หรือแม้กระทั่งชักชวนเยาวชนในชุมชนให้เป็นเครือข่ายเก็บเงินดอกให้ จนถึงขั้นสร้างความเดือดร้อนตามที่เสนอข่าวไป