รัฐบาลเลื่อนการใช้เงินดิจิตอล Wallet ออกไปไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลว่าจะนำเงินก้อนนี้ มาต่อสู้กับนโยบายภาษีของสหรัฐอเมริกา เงินกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้มีอยู่ราว 157 แสนล้านบาท ท่ามกลางเสียงความห่วงใย ว่าโครงการนี้มันเร่งรัดรวดเร็วมากเกินไปหรือไม่ มันจะขาดการกลั่นกรองให้ดีก่อนหรือเปล่า หรือว่ามันจะเป็นโครงการที่ไม่คุ้มกับการลงทุน หรือมันอาจจะเป็นช่องว่าง เกิดเป็นช่องว่างง่านต่อการทุจริต
รัฐบาลได้สั่งให้ทุกกระทรวง เสนอโครงการขึ้นมาเร่งด่วน ไม่มั่นใจนะว่ามีกรอบอย่างไร ต้องผ่านความเห็นชอบ หรือกลั่นกรองอะไรบ้าง การออกแบบต้องถึงขั้นไหน “ดีเทล ดีไซน์” หรือถึงขั้น “บีโอคิว” แล้วหรือยัง เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน ในส่วน จ.อุดรธานี ทุกภาคส่วนได้ส่งโครงการเข้ามา เอาใส่เข่งเขย่าล้างน้ำกันแล้ว เบื้องต้นเหลืออยู่ 84 โครงการ วงเงิน 748,570,000 บาท แยกเป็นงานน้ำ 23 โครงการ 171.9 ล้านบาท ด้านคมนาคม 53 โครงการ 521.48 ล้านบาท ด้านการท่องเที่ยว 4 โครงการ 40 ล้านบาท ด้านการส่งออก 10 ล้านบาท ด้านเศรษฐกิจชุมชน 3 โครงการ 5,140,000 บาท ยังมีข่าวกระแสข่าวว่าจัดสรรผ่านสายการเมืองอีกด้วย

เมื่อวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชานุวัตร ชั้น 3 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี มีการประชุมกรณีพิเศษ เรื่องงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี ในการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมทางเข้า-ออก ประธานที่นั่งหัวโต๊ะก็คือนายณฐพล วิถี รอง ผวจ.อุดรธานี รองผู้ว่าฯ กำกับดูแลภาพรวมงานพืชสวนโลกเป็นประธาน ขณะที่นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ก็เดินทางมาร่วมประชุมเก้าอี้ข้างๆแบบไม่ได้นัดหมาย ขณะที่นายวิเชียร ขาวขำ ที่ปรึกษานายก อบจ.อุดรธานี และนายศราวุธ เพชรพนมพร นายก อบจ.อุดรธานี เดินทางมาสมทบภายหลัง มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้รับจ้างจาก 3 บริษัทฯ ก็มาร่วมประชุม

การประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องการตั้งข้อสังเกต ของนายวิเชียร ขาวขำ ที่ปรึกษานายก อบจ.อุดรธานี เรื่องข้อบกพร่องในการออกแบบก่อสร้าง เฉพาะในส่วนหน้าระหว่างถนนมิตรภาพ-ทางรถไฟ-อาคารประชาสัมพันธ์ ระบุว่า การปรับปรุงรูปแบบแผนแม่บท จากรูปแบบเดิมที่มีการยกเลิกสกายวอล์ค รวมทั้งที่ อบจ.อุดรธานี เคยเสนอไว้ ทำให้น่าจะเกิดปัญหาคือ
1.รถยนต์ที่จะเข้ามาจากถนนมิตรภาพ จะมีสภาพแออัดจนถึงระดับรถติด ทำให้การเข้างานล่าช้า ,
2.สองสะพานข้ามพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเอามาทดแทนสกายวอล์คเดิม มันมีขนาดเล็กเกินไป รองรับผู้คนที่เดินทางเข้า-ออก จะเกิดสภาพแออัดได้

3.พื้นที่รองรับผู้มาชมงานเสร็จ แล้วจะเดินทางกลับ ยังไม่มีสถานที่รองรับเฉพาะ ต้องไปใช้พื้นที่เดียวกันกับขาเข้า
ซึ่งบริเวณนี้มีจะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำจุดแรก ด้านนอกเป็นอาคารบริการและจำหน่ายตั๋ว มีสะพานข้ามไปยังด้านใน ที่เป็นอาคารประชาสัมพันธ์ โดยรอบพื้นที่ชุ่มน้ำขณะนี้ ได้มีการนำหินทรายขนาดใหญ่ เรียงเป็นแนวกันตลิ่งพังจนครบหมดแล้ว

นายวิเชียร ขาวขำ ที่ปรึกษานายก อบจ.อุดรธานี ระบุว่า จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ หรืองบกลาง ที่ได้พูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลแล้วราว 150 ล้านบาท มาลงทุนเพิ่มเติมในส่วนนี้ โดยไม่ไปแตะต้องแผนงานเดิม หรือสัญญาเดิมได้ว่าจ้างเอกชนก่อนหน้านี้ ประกอบไปด้วย ขยายถนนทางเข้าพื้นที่ , เพิ่มพื้นที่จอดรถ , สร้างสะพานข้ามเข้างานเพิ่มอีกหนึ่งสะพาน และก่อสร้างสถานที่รองรับผู้เดินทางกลับ

ซึ่งที่ประชุมเองก็มีความคิดเห็นไม่ขัดข้อง ที่จะดำเนินการดังกล่าว แต่ก็มีความห่วงใยเรื่องเกี่ยวข้องกับ 1.แผนแม่บทที่รับรองไปแล้ว สัญญาที่เซ็นไปแล้ว ตลอดจนการปรับแก้ไขแบบแปลนบางส่วน , 2.ความชัดเจนของงบประมาณได้มาเพิ่มเติม , 3.การหาผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการ , 4.เวลาที่เหลืออยู่ที่จำกัดอยู่แล้วจะทันหรือไม่ และ 5.เมื่อทำไปแล้วมันจะดีกว่าเดิมหรือไม่ นี่ก็เป็นข้อสังเกตออกมานะจากความห่วงใย