เมืองอุดรธานีสุดสลด หนุ่มเลี้ยงหมูเสพยาบ้า มาเที่ยวงานทุ่งฯกับเพื่อน ซิ่ง จยย.ใช้มีดพับไล่แทงคอ เด็ก-ผู้ใหญ่ขี่ จยย.บนถนน ตร.ล้อมจับได้หลังก่อเหตุ ดับ 2 เจ็บ 6
เวลา 13.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2563 ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี แจ้งมีเหตุเหตุชายมีลักษณะ คล้ายเมายาคุ้มคลั่ง ใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายชาวบ้านใน เขต ทน.อุดรธานี มีผู้บาดเจ็บหลายราย เริ่มตั้งแต่หลังเรือนจำกลางอุดรธานี ลักษณะผมยาว สวมเสื้อแขนสาวสีขาว พับแขนขึ้นมาเหนือศอก สวมกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีขาว สวมใส่แมสผ้าสีดำ คนร้ายใช้มีดพับเป็นอาวุธ ตัวมีดยาวราว 6 นิ้ว ขี่ จยย.ก่อเหตุไปตามถนนหลายสายต่อเนื่อง
ที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.ภัธนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป. นำกำลัง ตร.สายตรวจ , ตำรวจจราจร และนอกเครื่องแบบ สภ.เมืองอุดรธานี ล้อมคนร้ายได้ที่หน้าร้านขายยารวมชัยเภสัช ถ.ประจักษ์ศิลปาคม ใกล้กับวงเวียนเฉลิมพระเกียรติ ทน.อุดรธานี นำอุปกรณ์เหล็กง่าม กระบอง และกรวยยาง ต้อนคนร้ายมาอยู่ที่หน้าร้านขายยาฯ เมื่อคนร้ายเผลอ และจังหวังหลบก้อนหิน ตำรวจได้กรูกันเข้าไปจับกุม จับกดลงกันพื้นควบคุมตัวได้ นำตัวขึ้นรถสายตรวจไปยัง สภ.เมืองอุดรธานี
โดยเหตุครั้งนี้คนร้ายก่อเหตุครั้งแรก ที่สี่แยกหลังเรือนจำอุดรธานี ถ.ศรีชมชื่น ตัดถนนนเรศวร ขณะ น.ส.ณัฐวดี โพธิ์พรม อายุ 17 ปี ขี่ จยย.ซ้อน น.ส.อัญชนา บุญยิ่งยวน อายุ 16 ปี มาจอดติดไฟแดง คนร้ายขี่ จยย.ยามาฮ่า สปีด สีดำส้ม ทะเบียน กษร-7 อุดรธานี มาประกบด้านขวา เอื้อมมือซ้ายใช้มีดแทงคอคนซ้อน ตามด้วยคนขับ คนขับถูกแทงลงรถยืนนิ่งจับแฮน จยย.ตัวเองไว้ ส่วนคนซ้อนลงจาก จยย.ไปหมดสติบนฟุตบาท คนร้ายขี่ จยย.หลบหนีไปทาง สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อนคนร้ายที่ซ้อนมาด้วยเดินหลบหนี หน่วยกู้ชีพมาช่วยนำส่ง รพ. โดยคนซ้อน จยย.เสียชีวิต (ตามคลิปวงจรปิด ทน.อุดรธานี)
จากนั้นคนร้ายขับขี่ จยย. ไปเพียงลำพัง และไปก่อเหตุอีกหลายครั้งในลักษณะเดียวกัน คือใช้อาวุธมีดแทงที่คอผู้อื่น มีผู้บาดเจ็บถูกทยอยนำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี จนมีเหตุผู้เสียชีวิตรายที่ 2 บริเวณหน้าร้าน “นิมิตแอร์” ถ.สุรการ คนร้ายขี่ จยย.ตามมาด้านหลัง ใช้อาวุธมีดแทงคอ น.ส.ชลดา หินคำ อายุ 22 ปี ขับขี่ จยย.ฮอนด้า ไอคอน สีบอร์นเงิน ขวพ-543 อุดรธานี ตกรถเสียชีวิตที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายก็ขี่ จยย.ไปก่อเหตุอีกที่หน้าทางเข้ามูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี ถนนโพศรี
นายอิธิพล อิ่มผึ่ง อายุ 31 ปี (ฆาตกรมือมีดพกโหด) อยู่เลขที่ 94 ม.3 ต.หนองบัวบาน อ.หนองบัวซอ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหากล่าวว่า ทำงานในฟาร์มเลี้ยงหมูของลุงใน ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ไม่เคยฆ่าหมูเลี้ยงอย่างเดียว เคยเสพยาบ้าแต่หยุดเสพมานาน จนวันนี้ก่อนมาเที่ยวจนก่อเหตุเสพยาบ้า 2 เม็ด ไม่รู้ว่าไปทำร้ายคนอื่นทำไม โดยพกมีดมาเพื่อป้องกันตัว ขอโทษที่ทำลงไป
นายสุบิน คณะเวส อายุ 29 ปี (เพื่อนฆาตกร) ระบุว่า นายอิธิพลฯ มีประวัติเสพยา และเคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาท เคยรู้จักกันแต่ไม่พบกันมานานแล้ว ได้ขี่ จยย.มาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมืองด้วยกัน นายอิธิพลฯเป็นคนขับตนเองซ้อน ไม่มีการแสดงอาการผิดปกติ จนมาถึงแยกหลังเรือนจำรถจอด นายอิธิพลฯเอื้อมมือไปที่คอผู้หญิง ตอนแรกคิดว่าไปจับแก้มเขา พอรู้ว่าเอามีดไปแทงคนอื่น ตนก็ลงรถเดินหนีออกมา นายอิธิพลฯก็ขับรถพุ่งออกไป
หลังจับกุมคนร้ายพบมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ประกอบด้วย ผู้เสียชีวิต 1. น.ส.ชลดา หินคำ อายุ 22 ปี เลขที่ 406/1 ม.2 ซอยโพธิ์สว่าง ต.หมากแข้ง อ.เมือง อุดรธานี เหตุเกิดแยกหลังเรืองจำอุดรธานี 2.น.ส.อัญชนา บุญยิ่งยวน อายุ 16 ปี ( ม.5/14 รร.อุดรพิทยานุกูล อยู่หอพักในเมืองอุดรธานี) อยู่เลขที่ 178 ม.13 ต.หนองหาน อ.หนองหาน อุดรธานี เหตุเกิดถนนสุรการ ก่อนสี่แยกท็อปเวิร์ด
ส่วนผู้บาดเจ็บ 6 ราย คือ น.ส.ณัฐวดี โพธิ์พรม อายุ 17 ปี หลังเรือนจำมากับผู้ตาย มีแผลที่ปาก , น.ส.ปิยวรรณ กันยาเยี้ยม อายุ 20 ปี หน้ามัสยิด ถ.ศรีชมชื่น แผลที่ไหล่ซ้าย , ด.ช.ธนรัฐ ศักดิ์คำด้วง อายุ 13 ปี หน้า ร.ร.บ้านหมากแข้ง ถ.อำเภอ แผลที่คอลึก 1 ซม. , น.ส.สิราสินี พรหมกูล อายุ 45 ปี หน้าร้านเรื่องของปู ถ.นเรศวร มีแผลแก้มขวา , น.ส.แว่นทิพย์ วงวิลัย อายุ 33 ปี หน้าทางเข้ามูลนิธิส่งเสริมธรรม ถ.โพศรี ไหล่ซ้ายแผลลึกยาว 6 ซม. และ รพ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม 1 ราย คือ น.ส.อรวรรณ บุแสง อายุ 30 ปี ผู้บาดเจ็บการปลอดภัย
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ได้เดินทางมาสอบปากคำนายอิธิพล มือมีดและเพื่อน ซึ่งนายอิธิพล ให้การวกไปวนมา อ้างว่าเคยเข้ารับการรักษาโรคประสาทที่ รพ.ปราจีนบุรี เมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่ง พล.ต.ต.พิษณุ ได้สั่งให้ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดี “ฆ่าผู้อื่นโดยเจนา” แม้จะอ้างว่าป่วยจิตเวชก็ตาม ซึ่งจะต้องนำตัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจว่าเป็นคนวิกลจริตหรือไม่และ ให้ไปเก็บหลักฐานภาพวงจรปิดตามจุดที่เกิดมาประกอบสำนวน พร้อมได้สั่งกำชับให้ตำรวจตรวจค้นอาวุธผู้เข้ามาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมือง เพื่อป้องกันเหตุไม่เกิดซ้ำรอย