ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า อุดรธานียังมีมาตรการป้องกัน และเฝ้าระวังการระบาดของโควิด-19 แม้หลายมาตรการผ่อนคลายลงจากประกาศ ศบค. แต่บางกิจกรรมอุดรธานีมีมาตรการเสริม โดยเฉพาะประเพณีบุญบั้งไฟ ที่จังหวัดไม่ได้ห้ามจัด แต่ให้ยึดกิจกรรมตามประเพณี จะมีมาตรการเพิ่มมาบ้าง โดยคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี มอบหมายให้นายอำเภอ พิจารณาการอนุญาตและติดตามตรวจสอบ ตามมาตรการของ สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี ได้ออกขึ้นมาโดยเฉพาะกรณีโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีระเบียบปฏิบัติเดิม ในเรื่องขอจำนวนการจุดบั้งไฟ และการขออนุญาตวิทยุการบิน
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่อุดรธานี พบการติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดต่ำกว่า 100 รายในรอบ 2 เดือน ทำให้ผู้ป่วยหายกลับบ้าน มีมากกว่าผู้ป่วยเข้ารักษาเพิ่ม แต่อุดรธานียังต้องเฝ้าระวัง การเปิดภาคเรียนแรก , การดื่มเหล้า-เบียร์ในร้านอาหารไม่เกิน 6 ทุ่ม ที่เพิ่มขึ้นมาจาก 3 ทุ่ม และประเพณีบุญบั้งไฟที่เคยจัดอยู่ทุกพื้นที่ ส่วนนี้ต้องควบคุมด้วยมาตรการหลัก คือ กิจกรรมไม่เกิน 1 พันคน , ห้ามขาย-ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พื้นที่จัดงาน , สวมหน้ากาก 100 % และเว้นระยะห่าง 1 เมตร
“ คกก.โรคติดต่อ จ.อุดรธานี มอบให้นายอำเภอพิจารณาอนุญาต งานบุญบั้งไฟตามมาตรการของ สาธารณสุข จ.อุดรธานี โดยได้ทำแบบฟอร์มประเมิน ส่งไปให้อำเภอไปปฏิบัติแล้ว โดยยึดมาตรการของประเทศ และเพิ่มมาตรการอุดรธานี อาทิ ผู้จัดงานและผู้ค้าในพื้นที่จัดงาน จะต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม และต้องคัดกรองด้วย ATK , ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องผ่านคัดกรอง , ห้ามมีกิจกรรมกิน-ดื่ม ภายในพื้นที่จัดงาน , ห้ามให้มีมหรสพในพื้นที่จัดงาน และไม่ให้พื้นที่ที่ฉีดวัคซีนเข็ม 3 กลุ่ม 608 ไม่ถึง 50 % จัดงาน คือ อ.หนองหาน , อ.บ้านดุง และ อ.ทุ่งฝน ”
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวด้วยว่า ฝ่ายปกครองในพื้นที่จัดงาน และหน่วยงานข้างเคียง จะต้องเข้าไปกำกับดูแลการจัดงาน ให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด และเหตุการณ์สุ่มเสี่ยงการแพร่เชื้อ ที่อาจ จะไม่ได้เขียนไว้ในมาตรการ อาทิ การจัดระเบียบคนเมาเข้าในสถานที่จัดงาน , ควบคุมกิจกรรมบางอย่างไม่ให้เกิดขึ้น ตัวอย่างเมื่อจุดบั้งไฟไม่ขึ้น มักจะเกิดเหตุการณ์อุ้มเจ้าของบั้งไฟไปลงโคลน ก็ไม่น่าจะให้เกิดขึ้น ”
