เมื่อบ่ายวันที่ 4 เมษายน 2566 ท่ามกลางอากาศร้อนจัดกว่า 40 องศา นายอำเภอกุมภวาปี จ.อุดรธานี เกิดเหตุไฟไหม้กองชานอ้อย ภายในโรงงานน้ำตาลเกษตรผล ริมถนนมิตรภาพ ทต.ห้วยเกิ้ง กุมภวาปี จ.อุดรธานี นายธนธร ศรีนาค ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.อุดรธานี ชี้แจงว่าได้รับรายงานเพลิงไหม้แล้ว จึงขอให้อำเภอประเมินสถานการณ์ ว่าจะสามารถจัดการกับไฟได้หรือไม่ หากเกินขีดความสามารถ ขอให้แจ้งขอรับการสนับสนุนเข้ามา ซึ่งทาง ปภ.อุดรธานี ได้ประสานไปยัง ปภ.14 เตรียมบุคลากร และเครื่องจักรไว้แล้ว สามารถเข้าสนับสนุนได้ทันทีเมื่อถูกร้องขอ
นายเจริญจิตร สืบสาววงศ์ นายอำเภอกุมภวาปี ตอบข้อซักถามว่า รง.น้ำตาลเกษตรผล ปิดหีบอ้อยมาตั้งแต่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา รับแจ้งกองชานอ้อยมีอยู่ 2 ล้านตัน เพราะผ่านการปิดหีบมาไม่นาน ซึ่งจะต้องเก็บไว้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โรงไฟฟ้าชีวะมวลของโรงงานเอง ต้นเพลิงที่เกิดน่าจะเกิดความร้อนสะสมมาต่อเนื่อง จากความร้อนใยนกองชานอ้อยเอง และความร้อนของอุณหภูมิ ขณะนี้ได้ระดมรถดับเพลิงของ อปท.ใกล้เคียง ในพื้นที่ อ.กุมภวาปี , โนนสะอาด และหนองแสง รวมทั้งของโรงงาน เร่งฉีดน้ำดับมาตั้งแต่และ ยังไม่ได้ร้องขอการสนับสนุนจากจังหวัด โดยจะมีการประเมินเป็นระยะ
จนเช้าวันที่ 5 เมษายน นายเจริญจิตร สืบสาววงศ์ นายอำเภอกุมภวาปี ชี้แจงว่า สถานการณ์ที่โรงงานน้ำตาลเกษตรผลดีขึ้น รถดับเพลิงจาก อปท.ต่าง ๆ เข้ามาช่วยฉีดน้ำสกัด จนถึงเช้าวันนี้ไม่มีควันแล้ว แต่ทางโรงงานฯและรถดับเพลิงไม่นิ่งนอนใจ ได้ส่งรถแบ็คโฮขึ้นไปบนกอชานอ้อย เขี่ยกองชานอ้อยจุดที่มีควัน เพื่อเปิดออกให้รถดับเพลิงฉีดน้ำ พร้อมกับจัดชุดเฝ้าระวัง หากเกิดไฟปทุขึ้นมาอีก ก็จะสามาถเข้าไปดับทันที
นายอำเภอกุมภวาปี ชี้แจงอีกว่า กองชานอ้อยขนาดใหญ่มีความสูง เก็บไว้ในพื้นที่เฉพาะของโรงงาน มีรั่วคอนกรีตกั้นแยกไว้ต่างหาก ทำให้การดับและควบคุมเพลิง อยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามไปในส่วนอื่น ….
