เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เชิญหน่วยงานปกครอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , ผู้อำนวยการโรงเรียน 2 แห่ง เด็กนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแรก 17 คน โรงเรียนที่สอง 2 คน พร้อมผู้ปกครอง ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ การโพสต์ในโซเชียลข่มขู่กันด้วยอาวุธปืน นัดถล่มกันที่สวนสาธารณหนองประจักษ์ฯ มาร่วมกันพูดคุยหาสาเหตุ เพื่อหาทางออก ก่อนจะลุกลามเกิดเหตุรุนแรง
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า พบในโซเชียลมีเรื่องขัดแย้งเด็ก 2 กลุ่ม ไม่ใช่ความขัดแย้งของสถาบัน จึงติดตามเด็กทั้งสองกลุ่ม และเชิญมาพูดคุยที่ สภ.เมืองอุดรธานี หลังเลิกเรียนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พบว่าเด็กที่โชว์อาวุธปืน ไม่ได้เรียนหนังสือ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี สอบถามว่าเป็นปืนแบงค์กัน แต่ดัดแปลงให้ยิงได้จริง แต่ยังไม่พบปืนของกลาง พบเพียงกระสุนปืน .38 จึงแจ้งข้อหา “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งดำเนินคดีที่ สภ.กุดจับ
“ ได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสวนสาธารณหนองประจักษ์ ร่วมกับตำรวจ ออกตรวจตราเ พื่อป้องกันเหตุ ส่วนแชทที่หลุดออกมา พบเป็นความบาดหมางของเด็ก 2 คน ที่เคยเรียนชั้นประถมศึกษาอยู่สถาบันเดียวกัน แต่พอขึ้นชั้นมัธยมได้แยกไปคนละโรงเรียน เมื่อมาพบกันได้มีการถามเรื่องเก่า ทำให้ทะเลาะกัน และได้โพสต์ข่มขู่ทางโซเชียล จึงได้เรียกผู้ปกครองเด็กทั้ง 19 คน มารับทราบปัญหา ทำประวัติ และปล่อยตัวไป ”
นางเอ นามสมมติ อายุ 51 ปี (เบลอหน้า) ผู้ปกครองเด็กนักเรียน ม.1 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ เล่าว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องเช่นนี้ เพื่อนชักชวนทำไมไปกับเพื่อน เมื่อถามลูกก็บอกว่า แค่อยากไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นแค่นั้น เพื่อนชวนก็เลยไป ดีที่ยังไม่เกิดเหตุร้ายแรง ถึงบอกลูกว่าอย่าไปทำแบบนี้ ซึ่งลูกก็รับปาก
ส่วนนายบี นามสมมติ อายุ 46 ปี (เบลอหน้า ) ผู้ปกครองเด็กที่โพสต์ ซึ่งเป็นต้นเรื่อง ยอมรับเป็นความไม่เข้าใจของเด็ก 2 คน ไม่เกี่ยวกับสถาบัน ข่าวที่ถูกแพร่กระจายในสื่อโซเชียล เป็นการเข้าใจผิด เป็นการสื่อสารข้อมูลผิดพลาด ขยายไปเรื่อย ๆ จนนัดมารวมตัวกันไปถล่มกัน ในฐานะของพ่อน้องที่เป็นเจ้าของแชทดุเดือด มีข้อความไม่เหมาะสมหลายอย่าง คนทั่วไปมองว่าเด็กคนนี้เป็นอันตรายหรือไม่ แต่มันเป็นแค่การคุยโม้โอ้อวด และส่งไปเรื่อย ๆ อาวุธที่โชว์ก็ไม่มี ตำรวจพบเป็นแค่บีบีกัน
“ อยากขอโทษสังคม ทุกคนที่ได้รับผลกระทบ อยากขอโอกาสให้เด็ก แค่ความคึกคะนอง นำไปลงสื่อโซเชียล จนดูเหมือนจะรุนแรง แต่ไม่มีอะไรเลย ส่วนลูกก็เริ่มเข้าใจถึงผลกระทบจากการกระทำและเรียนรู้กับเหตุการณ์นี้ ”….
