เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไป รพ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ติดตามข่าวศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ ชื่นชม 2 พยาบาลสาว รพ.กุมภวาปี ที่ประสบเหตุได้ไปทำ CPR ช่วยชีวิตนางจีรภา หงส์สาคำ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/47 หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ป่วยอัลไซเมอร์ เดินข้ามถนนถูกรถตู้ชนเสียชีวิต ที่ถนนแวร์ซายน์-สี่แยกสามพร้าว หน้าร้านโสเหล่ เขตเทศบาลนครอุดรธานี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 31 ธันวาคม 2566
พบนางปิ่นเพชร เอกสิงหชัย หัวหน้าพยาบาล รพ.กุมภวาปี น.ส.ณัฐพร แวงคำ หรืออุ๊ อายุ 24 ปี น.ส.เสาวลักษณ์ จันทร์พิลา หรือออย อายุ 28 ปี พยาบาลวิชาชีพประจำห้อง ICU น.ส.ปรานต์พนิตา นาสูงชน พยาบาลวิชาชีพหน่วยกู้ชีพ ซึ่งทั้งหมดได้ดูคลิปวีดีโอเหตุการณ์ น.ส.ณัฐพร และ น.ส.เสาวลักษณ์ ทำ CPR ช่วยเหลือนางจีรภาฯ ที่นอนอยู่กลางถนน มีเลือดไหลเต็มพื้น โดยทั้งสองอยู่ในชุดไปรเวท กำลังจะไปเคาท์ดาวน์ แบบไม่ห่วงสวยเลย เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ก่อน
น.ส.ณัฐพร แวงคำ หรืออุ๊ อายุ 24 ปี พยาบาลวิชาชีพประจำห้อง ICU โรงพยาบาลกุมภวาปี เล่าว่า เธอกับ น.ส.เสาวลักษณ์ ซึ่งออกจากเวรเช้า จึงชวนกันไปเคาท์ดาวน์ในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ พบรถตู้ชนคนเดินข้ามถนน ผู้บาดเจ็บนอนอยู่กลางถนน ยังไม่มีใครเข้าไปช่วย จึงชวนกันจอดรถลงไปดูจะช่วยเหลือ คนอยู่บริเวณนั้นบอกว่าอย่าจับ คงไม่รู้ว่าพวกเราเป็นพยาบาล เพราะไม่ได้แต่งชุดพยาบาล
น.ส.ณัฐพร เล่าต่อว่า เมื่อประเมินผู้บาดเจ็บพบไม่มีชีพจรแล้ว แต่เห็นผู้บาดเจ็บหายใจเฮือกสุดท้าย เราจึงชวนกันลองสู้ก่อนเผื่อจะยังมีชีวิตอยู่ จึงทำ CPR โดยตนสวมกระโปรงเป็นคนจับศีรษะ น.ส.เสาวลักษณ์ปั๊มหัวใจ ประมาณ 4 นาที ชีพจรก็ไม่กลับมา รถกู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานีมาพอดี จึงแจ้งว่าปั๊มหัวใจไม่ขึ้น จากนั้นขอตัวไปเคาท์ดาวน์ โดยไม่รู้มีการถ่ายคลิปเอาไว้ วันต่อมา สนง.สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้ติดต่อมาว่าเห็นคลิปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
“ เหตุการณ์นี้เป็นสันชาติญาณพยาบาล ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเบื้องต้น เรามีความรู้จึงอยากช่วยชีวิตไว้ก่อน มารู้ภายหลังว่าเสียชีวิต และขอบคุณมากที่มีผู้ใหญ่เห็นสิ่งดีๆในครั้งนี้ ได้มอบเกียรติบัตรให้ จะทำดีตลอดไป และจะได้เป็นแบบอย่างให้คนทำดีต่อไป หากเกิดเหตุการณ์อะไร ให้เข้าไปช่วยก่อน แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ในชุดพยาบาล หรือปฏิบัติหน้าที่ ”
น.ส.เสาวลักษณ์ จันทร์พิลา หรือออย อายุ 28 ปี พยาบาลวิชาชีพประจำห้อง ICU โรงพยาบาลกุมภวาปี เล่าว่า ชวนกันขับรถยนต์จะไปเคาท์ดาวน์ โดยกินข้าวที่ห้างฯแห่งหนึ่งก่อน ตอนนั้นรู้สึกหิวข้าวมาก แต่มาเจอเหตุการณ์อุบัติเหตุ ดูจากสภาพเลือดเต็มถนน เริ่มแข็งตัวแล้ว ไม่มีชีพจร ครั้งแรกตัดใจแล้ว แต่น้องบอกว่าคนไข้หายใจเฮือก คนในเหตุการณ์บอกเหตุเกิดมา 5 นาที แต่ตัดสินใจช่วยก่อนเผื่อจะกลับมา ไม่ได้มองด้วยซ้ำว่ามีใครถ่ายคลิป ไม่ได้หวังอะไร มันเป็นความบังเอิญ เป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้ว่าผู้ใหญ่มองเห็นความสำคัญ
นางปิ่นเพชร เอกสิงหชัย หัวหน้าพยาบาล เปิดเผยว่า รู้สึกภูมิใจในตัวน้องทั้งสองมาก ทั้งที่น้องพึ่งเรียนจบมาไม่นาน น้องมีจิตวิญญาณในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ น้องมีเมล็ดพันธุ์แบบนี้อยู่ อยากให้มีมาก ๆ เพราะเราเรียนการช่วยเหลือคน มีโอกาสมากกว่าคนอื่น มีความรู้ ช่วยได้ถูกต้อง ให้ใช้ความรู้ด้านนี้ช่วยคนต่อไป
ทางด้าน น.ส.ปรานต์พนิตา นาสูงชน พยาบาลวิชาชีพหน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลกุมภวาปี กล่าวเสริมว่า การเกิดอุบัติเหตุ หากมีการช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการ CPR ที่จุดเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บจะมีโอกาสรอดชีวิตจะสูง หากประชาชนทั่วไป CPR เป็น แล้วเข้าช่วยเหลือทันที คนไข้จะมีโอกาสรอดชีวิต จึงอยากจะให้มีการสอนประชาชนทั่วไป CPR ผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ก่อนที่กู้ชีพหรือรถพยาบาลจะไปถึง จะดีแค่ไหนหากทุกคน CPR ช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นทุกคน….