วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมล่าโจรลักเงินหนุ่มใหญ่8หมื่นขณะงีบหลับในหนองประจักษ์ฯ

ล่าโจรลักเงินหนุ่มใหญ่8หมื่นขณะงีบหลับในหนองประจักษ์ฯ

จากกรณีนายอดิสรณ์ อ่อนมาสาย อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/3 หมู่ 3 บ้านโคกสนั่น ต.นากอก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พกเงิน 8 หมื่นบาท มานอนเฝ้าพี่ชายซึ่งป่วยเนื้องอกในสมอง ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีกว่า 20 วัน ซึ่งมีกำหนดผ่าตัดในวันที่ 5 เมษายนนี้ แต่เพราะความอ่อนเพลีย จึงนอนพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ภายในสวนสาธารณหนองประจักษ์ พอตื่นขึ้นมาพบว่าโจรแสบลักกระเป๋าเงินไปหมด ถึงกับทรุดนั่งร้องไห้ เพราะเป็นเงินเก็บสะสมมาตลอดชีวิต และนำมาเป็นค่ารักษาพี่ชาย

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 เมษายน 2566 พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิ์ลี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร  พ.ต.ท.(หญิง) จุฑารัตน์ ดำเวียงคำ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เรียกประชุมตำรวจสืบสวน เพื่อวางแผนออกสืบสวนติดตามหาคนร้ายที่ขโมยเงินนายอดิสรณ์ ซึ่งจากการตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พอจะทราบตัวแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร รู้เพียงชื่อเล่นว่านัน และใช้รถจักรยานยนต์ในการหลบหนี กำลังสืบสวนหาตัว ซึ่งอาจจะไม่อยู่ในพื้นที่

ต่อมาเวลา 09.30 น. นายอดิสรณ์ อ่อนมาสาย อายุ 52 ปี ผู้เสียหายเดินทางมา สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกับนางกองงาย ชาดง อายุ 52 ปี ภรรยา และญาติพี่น้องรวม 5 คน เพื่อมาสอบถามความคืบหน้าคดี โดยนายอดิสรณ์ เล่าว่า ตนมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ผู้ป่วยเป็นคนที่ 3 ส่วนตนเป็นคนสุดท้อง หลังแจ้งตำรวจได้เดินทางกลับบ้าน เล่าเรื่องทั้งหมดให้ญาติพี่น้องฟัง ซึ่งต่างก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ เช้านี้ได้พากันมาเยี่ยมพี่ชายที่ป่วย แต่ไม่เล่าเรื่องเงินหายให้ฟัง เพราะพี่ชายเป็นคนอ่อนแอ อาจจะรับไม่ได้ เสร็จแล้วจึงเดินทางมาโรงพัก

“เงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต มารักษาพี่ชาย พี่น้อง 5 คน คนป่วยเป็นคนที่ 3 ส่วนตนเป็นคนสุดท้อง ตนรู้สึกสงสารพี่ชาย ได้นำเงินเก็บมารักษาพี่ชาย เพราะสายเลือดตัดกันไม่ขาด  แต่เงินมาหาย ก็รู้สึกเสียดาย หมดไปกับรักษาพี่ชายยังดีกว่าหายไปเพราะคนขโมย  จะเอาที่นา ที่ไร่ไปจำนองก็ไม่ได้ ต้องมีใบโฉนดเป็นหลักทรัพย์ ตนมีที่นาแค่ 2 ไร่ และปลูกบ้านบนที่ดินพี่สาว ส่วนพยาบาลได้แจ้งว่า ไม่ได้เก็บเงินค่ารักษาพี่ชายแค่ครั้งเดียว ทยอยจ่ายก็ได้ เบื้องทราบว่าค่ารักษาพี่ชายเกือบ 2 หมื่นบาท ไม่รวมค่าพักฟื้นหลังผ่าตัด อยากอ้อนวอนคนร้ายให้สงสารตน ซึ่งเป็นคนไม่มีหนทาง ให้นำเงินมาคืน จะเหลือเงินมากหรือน้อย ก็จะไม่เอาเรื่องราวเลย”

ส่วนนางกองงาย ชาดง อายุ 52 ปี ภรรยานายอดิสรณ์ เล่าว่า ตนกับสามีแต่งงานกันตั้งแต่ปี 2554 ได้ทำงานรับจ้างเก็บเงินมา 12 ปี สามีนำเงินมารักษาพี่ชายที่ป่วยตนก็ไม่ว่าอะไร เพราะสงสารลูกเมียก็ไม่ดูแล พี่น้องทุกคนต่างก็ออกเงินช่วยกัน คนละเล็กละน้อย มีตนและสามีเป็นหลักในการดูแลรักษา แต่ไม่คิดว่าเงินที่เก็บไว้จะหาย ทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้

”หลังจากข่าวออกไป มีคนใจบุญ สงสารพวกตน ได้สอบถามมาว่าจะโอนเงินมาช่วยค่ารักษาพยาบาลจะโอนได้อย่างไร ซึ่งพวกตนไม่มีสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งจะให้นายอดิสรณ์ ไปทำบัตรประชาชน และไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อผู้ใจบุญโอนเงินมาช่วยเหลือได้”

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments