สำเร็จรูป ได้ดอกกัญชาออแกนิคแห้งไป 1 ขวดโหลด น้ำหนัก 5 กรัม พร้อมกับเงิน 100 บาท ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดภายในซอยจินตคาม เทศบาลนครอุดรธานี เวลาประมาณ 23.10 น. วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดกลับมาก่อเหตุซ้ำ อ้างกลับมารับเงินที่ค้างไว้อีก 900 บาท เจ้าของร้านและเพื่อนรวมพลังรวบตัวไว้ได้ ตำรวจจริงมาที่เกิดเหตุ กลับบอกว่าผู้ใหญ่มีสีบอกให้ทำ และตัวเองเป็นเจ้าชาย
เมื่อเวลา 18.20 น. วันที่ 2 กันยายน 2566 ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจากร้าน “PGR CANNABRICK” ร้านจำหน่ายกัญชาออแกนิค ว่ามีคนร้ายคนเดิมที่เข้ามาก่อเหตุเมื่อคืนนี้ ได้ย้อนกลับเข้ามาก่อเหตุซ้ำ หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังสายตรวจ 191 รุดเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าของร้านและเพื่อน ได้ทำการควบคุมตัวเอาไว้ได้ที่หน้าร้านขายของชำ ห่างจากร้านที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร
จากการสอบถามคนร้ายในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อว่านายณัฐพงษ์ ไกรไทสงค์ หรือเสือน้อย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/1 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยของกลาง กรรไกร 2 ด้าม และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 1กพ 7258 โดยให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เพียงแค่ต้องกัญชาไปเสพเท่านั้น และที่อ้างว่าตำรวจ เพราะมีผู้ใหญ่มีสี ที่รู้จักกันบอกให้ทำ และตนก็เป็นเจ้าชาย โดยระหว่างการควบคุมตัว ญาติเจ้าของร้านได้ปรี่เข้ามาชกเข้าไปที่ใบหน้าคนร้ายไปหลายหมัด ตำรวจต้องเข้าไปห้ามปรามกันจนชุลมุน
นายคณาธิป แซ่ภู่ อายุ 22 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า หลังเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ เพื่อนและญาติที่ทราบข่าว ก็บอกให้ระวังตัวในการเปิดร้าน บางส่วนก็มาเล่นกับตน เพื่อเฝ้าร้านเป็นเพื่อน ซึ่งตนเองคิดอยู่แล้วว่าคนร้ายต้องย้อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ช่วงเย็นเขาก็กลับมาจริงๆ ตอนนั้นมีเพื่อนและลูกค้าอยู่ในร้านด้วยกัน 5 คน คนร้ายถือกรรไกร 1 ด้ามเดินเข้ามาอ้างตัวว่าเป็นตำรวจเหมือนเดิม มาขอเก็บเงินส่วนที่เหลืออีก 900 บาท ที่ค้างไว้เมื่อคืนนี้ ตนจำคนร้ายได้ จึงส่งสัญญาณบอกเพื่อนให้ล้อมจับ คนร้ายไหวตัวทันจึงวิ่งหนีออกมานอกร้าน แล้วเข้าไปหลบอยู่ในร้านชำใกล้กัน พวกตนจึงเข้าไปควบคุมตัวเอาไว้ และแจ้งตำรวจทันที
หลังจากนำตัวนายณัฐพงษ์ฯ หรือเสือน้อย มาที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้สารภาพในสภาพหัวปูดปากบวมเพิ่มเติมอีกว่า อ้างเป็นตำรวจเพื่อไปขอเงินจริง ขอไป 1,000 บาท แต่เขาให้มา 100 บาท และเอากัญชาไปด้วย 3-4 ดอก เมื่อเอาไปแล้วตนก็นำไปเสพแต่ยังไม่หมด เหลืออยู่ประมาณ 2 – 3 ดอก ที่ตัดสินใจกลับไปอีก ก็เพื่อจะไปขออีกสักครั้ง โดยไปขออีก 900 บาท เพื่อจะหาเงินไปทำงาน เอาไปตั้งตัวทำเฟอร์นิเจอร์กับเพื่อน
“ ส่วนการอ้างตัวเป็นตำรวจ เพราะตนเคยทหารเกณฑ์อยู่ในค่ายแห่งหนึ่งที่อุดรธานี และมีญาติเป็นทหารหน่วยซีล ตนรู้จักกับทหารยศจ่า ก็จำลักษณะท่าทางเขามา หลังจากปลดประจำการมา ตนก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับใครอีก ตอนนี้ยังไม่ได้ทำงาน ก็หวังว่าจะมาขอเงินเขาไปเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนกัญชานั้น ตนเพิ่งติดเสพได้ไม่ได้ เพิ่งเคยลองเสพขณะไปเที่ยวงานคอนเสิร์ตที่มีชื่อได้ประมาณ 1 ปี ”