ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 ในการประชุมคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพ เขต 8 อุดรธานี มีนายเสนีย์ จิตเกษม ประธาน คกก.เป็นประธานที่ประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการฯ มีนายปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 8 เข้าร่วมประชุม และบางส่วนประชุมผ่านโปรแกรม “ซูม” ที่ให้ความห่วงใยในประเด็น การฉีดวัคซีนในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 8 ที่อยู่ในระดับต่ำ และเรื่องการส่งอาหาร 3 มื้อ ให้ผู้ติดเชื้อรักษาตัวที่บ้าน ยังขาดความพร้อม
โดยการฉีดวัคซีนในช่วงแรก ทำได้ดีในเขตสุขภาพที่ 8 โดยเฉพาะกลุ่ม 608 สามารถแก้ปัญหาการ “กลัววัคซีน” ของกลุ่มเป้าหมายหมายได้ แต่การฉีดวัคซีนยังไม่ตรงเป้า 70 % เมื่อมาในช่วงท้ายหลังจากฉีดวัคซีน 2 เข็มไปแล้ว ก็ไม่มีผู้มาฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 น้อยมาก วันธรรมดารวมแล้วไม่หลักพัน วันหยุดรวมแล้วหลักร้อย ทำให้เขตสุขภาพที่ 8 อยู่เกือบลำดับสุดท้าย ภาวะเปลี่ยนมาเป็น “ชาวบ้านไม่กลัวโควิด” ที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ป่วยไม่รุนแรง-ตายลด-ข่าวลือ
ขณะเดียวกันยังมีผู้เสียชีวิตอยู่ สัปดาห์นี้เขตสุขภาพที่ 8 มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นกลุ่ม 608 และไม่ได้ฉีดวัคซีน จะทำอย่างไรให้ผู้ยังไม่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 เข้ามาฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ทำอย่างไรจะให้ผู้ที่ฉีด 2 เข็มไปแล้ว มาฉีดวัคซีนในเข็มที่ 3 เพื่อลดผู้ป่วยอาการรุนแรง และลดการเสียชีวิต เมื่อฉีดเข็ม 3 ได้ตามเป้าหมาย ก็จะได้เปิดเมืองได้อย่างสบายใจ เพราะวันนี้ถูกถามว่าจะเปิดเมือง แต่เราเองก็อึดอัดว่าการฉีดวัคซีนยังต่ำ ทั้งเข็ม 1 และเข็ม 3
ต่อมา 14.00 น. วันเดียวกัน นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) อุดรธานี แถลงสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่อุดรธานี ว่า อุดรธานียังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นๆลงๆค่อนข้างสูง ส่วนรักษาตัวที่ รพ.อยู่ระดับ 200 คนบวก-ลบต่อวัน โดยพบว่ากลุ่มอายุ 0-4 ปี , 5-9 ปี และ 20-24 ปี มีจำนวนสูงขึ้น ส่วนผู้ป่วยรักษาตัวที่บ้าน สูงขึ้นมากกว่าวันละ 500-1,000 คน ที่พบสาเหตุในกลุ่มงานศพ-ร้านอาหารกึ่งผับ(เฉพาะคนเที่ยว)- ตลาด-องค์กร-หน่วยงาน-สถานประกอบ-บุคลากรทางการแพทย์ กระจายเป็นกลุ่มๆเล็ก-กลาง
“ อุดรธานีไม่มีผู้เสียชีวิตต่อเนื่องมา 14 วัน จากที่เชื้อโควิด-19 มีความรุนแรงน้อย และส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขณะนี้คือ ผู้มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตที่ผ่านมา คือ กลุ่มผู้ป่วย 608 , ไม่ได้ฉีดวัคซีน และฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายเกิน 3 เดือน โดยเข็ม 1 ฉีดไปแล้ว 69.9 % , เข็ม 2 ฉีดแล้ว 63.8 % แต่เข็ม 3 กลับฉีดไปเพียง 17.1 % เท่านั้น ทำให้อุดรธานีได้ค้นหา ผู้ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ยังไม่ได้ฉีดเข็ม 3 หลังจากผ่านไป 3 เดือน ให้กลับมาฉีดกระตุ้น ด้วยการแจ้งผ่านแอพหมอพร้อม และแจ้งผ่าน อสม.”
รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ 1 มี.ค.เป็นต้นมา การดูแลรักษาผู้ป่วย และผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มแรก ผู้ป่วยมีอาการถึงเกณฑ์ หรือกลุ่ม 608 และกลุ่มมีปัญหาสถานที่กักตัว จะได้รับการดูแลรักษาที่ รพ. ซึ่งมีเตียงรองรับมากกว่า 1,235 เตียง เหลือเตียงรองรับ 599 เตียง กลุ่มที่สอง กลุ่มที่มีอาการเล็กน้อย ให้รักษาตัวที่บ้านแบบ HI จะได้รับ “บอคเซท” ที่มีอุปกรณ์และยารักษา (อาจมียาฟาวิฟิราเวีย) รับการตรวจประเมินทางระบบสื่อสารทุกวัน และมีอาหารฟรี 3 มือ และกลุ่มที่สาม กลุ่มที่ไม่มีอาการและสมัครใจ รักษาตัวอยู่ที่บ้านแบบ OPD รับ “บอคเซท” ไม่มีอุปกรณ์แพทย์ มียารักษา (ไม่มียาฟาวิฟิราเวีย) ตรวจประเมิน 1 ครั้ง และไม่มีอาหาร 3 มื้อ (โลกส่วนตัวสูง)
