ชาวบ้านต่อต้านโรงไฟฟ้าชีวะมวล ตำบลผักตบ อ.หนองหาน ลานต้านศูนย์จัดการขยะอีกโครงการ เผาพริก-เผาเกลือสาปแช่ง เดินรณรงค์เอาป้ายไปติดหน้าหมู่บ้าน-บ้านตัวเอง อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 2 นายทุนจับมือผู้นำท้องที่ หวานเงิน-แจกของ-ขนคนนอก จัดเวทีชี้แจงฝ่ายเดียวหวังผลประชาพิจารณ์
เมื่อเวลา 08.30 น วันที่ 1 สิงหาคม ที่ศาลาประชาคมบ้านป่าก้าว ม.5 และ 12 ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลผักตบกว่า 400 คน นำโดยนายคำปลาย คำแพงราช อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านผักตบ เดินทางมารวมตัวคัดค้านสร้างโรงไฟฟ้าชีวะมวลของ บ.ไทยโก้ เทคโนโลยี จก. ที่มีแผนสร้าง ถ.นิตโย กม.26-27 บริเวณห้วยกะพี้ ห่าง รร.บ้านป่าก้าว 400 เมตร ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยมี พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.หนองหาน นายรักชาติ ลาภมูล ปลัดป้องกัน อ.หนองหาน นำกำลังตำรวจ ปกครอง ทหาร มารักษาความเรียบร้อย โดยที่หน้าบ้านส่วนใหญ่มีป้ายต่อต้านขนาด 1 คูณ 1.5 ม.ติดไว้
กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโรงไฟฟ้าชีวะมวล ได้ใช้ป้ายขนาดต่างๆ เขียนข้อความ “พวกเรา ต่อต้าน ไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวะมวล” มายกต้านไม่เอาโรงไฟฟ้า ก่อนจะประกอบพิธีขอขมา “หอปู่หลักบ้าน” และมอบหมายให้แม่สาย โอชารส อายุ 72 ปี นำประกอบ “พิธีเผาพริกเผาเกลือ” สาปแช่งผู้ไม่หวังดี ต้องการผลประโยชน์ เอาภัยร้ายเข้ามาสู่หมู่บ้าน ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้อง จากนั้นจัดขบวนเดินรณรงค์ ถือป้ายต่อต้าน ตะโกนไม่เอา-ออกไป ตามถนนกลางหมู่บ้านไปจนถึงถนนนิตโย ระยะทางกว่า 1 กม. เพื่อติดตั้งป้ายไวนิลขนาด 2 คูณ 3 เมตร ติดไว้ 2 ฝั่งถนน ส่วนป้ายขนาดเล็กให้นำกลับไปติดที่หน้าบ้าน
นายคำปลาย คำแพงราช อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านผักตบ แกนนำกลุ่มต่อต้านฯ ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ใจความว่า กลุ่มเครือข่ายคัดค้านการตั้งโรงไฟฟ้าชีวะมวล ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการตั้งโรงไฟฟ้าชีวะมวลของ บริษัท ไทยโก้ เทคโนโลยี จำกัด ต่อนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลผักตบ นายอำเภอหนองหาน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และกลุ่มพลังงานภาค 4 จังหวัดขอนแก่น โดยได้แนบรายชื่อผู้คัดค้าน 1,500 รายชื่อไปแล้วนั้น ขนาดนี้ทางบริษัทฯ ยังไม่ได้ยุติการดำเนินการใดๆทั้งสิ้น โดยจัดให้มีการประชุมแต่ละหมู่บ้านในเขต 5 ตำบลทุกวัน
“ โดยให้ผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงของหมู่บ้าน ว่าจะมีการประชุมทำประชาคมการสร้างโรงไฟฟ้าชีวะมวล ให้ประชาชนไปลงชื่อเข้าร่วมประชุมจะได้รับเงินคนละ 100 บาท แต่บางหมู่บ้านไม่มีคนเข้าร่วม ก็ไปขนคนมาจากที่อื่นมา เพื่อสร้างภาพว่ามีผู้สนับสนุนมาก การกระทำดังกล่าวเป็นการทำที่ผิดกฎหมาย ว่าด้วยการทำประชาคม ซึ่งทางกลุ่มเครือข่ายได้ไปแจ้งความ และลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.หนองหาน เพื่อไม่ให้บริษัทนำผลการประชุม และนำรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม ไปอ้างเป็นการทำประชาพิจารณ์ ”
แถลงการณ์ระบุอีกว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมากลุ่มเครือข่ายคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวะมวล ไม่ไว้วางใจว่าระบบราชการ และคนของบริษัทฯ จึงได้รวบรวมรายชื่อผู้คัดค้านเพิ่มขึ้นเป็น 3,298 รายชื่อ เพื่อยืนยันว่าคนในพื้นที่ไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะสารพิษ ให้หยุดโครงการนี้โดยสิ้นเชิง เอาโรงไฟฟ้าสารพิษนี้ออกไป อำเภอหนองหานเป็นเมืองมรดกโลก ต้อนรับผู้คนทั่วโลก กำลังจะกลายเป็นเมืองขยะเมืองสารพิษ เราจะยอมให้คนทั่วโลกไปพูดว่า หนองหานเป็นมรดกกองขยะสารพิษได้อย่างไร
นายคำปลาย คำแพงราช แกนนำกลุ่มต่อต้านฯ ได้นำตัวแทนชาวบ้านราว 20 คน เดินทางต่อไปยัง สนง.เทศบาลตำบลผักตบ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวะมวล และรายชื่อชาวบ้านคัดค้าน นายปะวีณ งอกคำ นายก ทต.ผักตบ ออกมารับหนังสือ พร้อมกับมีคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลผักตบ ที่มีการประชุมกันอยู่ที่เทศบาลพอดี โดยแกนนำชาวบ้านมาระบุว่า “นำชาวบ้านมาขอความเมตตาจากนายกฯ ที่มีอำนาจหน้าที่ในการยุติโครงการได้ ตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แต่หากไม่มีการดำเนินการ ก็จะเดินหน้าต่อสู่ตามหนทางไปจนถึงศาลปกครอง”
นายปะวีณ งอกคำ นายก ทต.ผักตบ ได้รับหนังสือคัดค้าน แล้วกล่าวตอบว่า ยืนยันตั้งแต่หนังสือฉบับแรกแล้ว ว่าถ้าโครงการไม่ดีนายกฯก็ไม่เอา แต่ที่สำคัญคือนายกฯไม่มีอำนาจไปอนุญาต ให้ตั้งโรงงานไหนในพื้นที่ โรงงานก่อนที่เกิดปัญหา ก็อำนวยความสะดวกรับฟังความคิดเห็น ก็รู้กันอยู่ว่าชาวบ้านไม่เห็นด้วย แต่ผู้มีอำนาจเขาก็อนุญาตมา โดยเทศบาลฯมีอำนาจเพียงเรื่องการขอก่อสร้าง ถ้าเขาขอก่อสร้างมา เราก็จะตรวจสอบ ไม่ถูกต้องก็อนุญาตไม่ได้ แต่ถ้าทุกอย่างถูกต้องก็อนุญาตไป ไม่ใช่อนุญาตโรงงานแต่เป็นอนุญาตสร้างอาคาร ทำให้ชาวบ้านคัดค้านไม่พอใจเดินทางกลับ
นายคำปลาย คำแพงราช แกนนำกลุ่มต่อต้านฯ เปิดเผยว่า เป็นการต่อสู้ของชาวบ้าน ที่ไม่ต้องการโรงฟ้าชีวะมวล ขนาด 20 เม็กกะวัตต์ ตั้งอยู่จุดรวมของชุมชน ซึ่งกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงผลประชาพิจารณ์ ด้วยการแจกเงิน แจกของ ขนคนจากบ้านอื่นมาสนับสนุน ถ้าโรงไฟฟ้านี้ดีจริงทำไมมีที่อื่นจึงถูก “ไล่” และยิงไปกว่านั้นเอกชนรายเดียวกัน กำลังดำเนินโครงการให้ อ.หนองหาน เป็นศูนย์รวบรวมขยะในภูมิภาคนี้ เพื่อเอาขยะมาใช้เป็นพลังงาน ในโรงไฟฟ้าชีวะมวลที่ระบุว่า ใช้ขยะที่สามารถเผาได้ 30 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่วัสดุเหลือจากการเกษตรเท่านั้น
