วันพุธ, ธันวาคม 4, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมหนุ่มใหญ่วางตาข่ายดักปลาเรือล่มจมดับงมหาข้ามคืนญาติร่ำไห้ระงม

หนุ่มใหญ่วางตาข่ายดักปลาเรือล่มจมดับงมหาข้ามคืนญาติร่ำไห้ระงม

หนุ่มใหญ่ออกไปหาปลาตั้งแต่บ่ายของวันที่ 1 มกราคม 2566 ตกเย็นยังไม่เห็นกลับบ้าน ภรรยาและญาติออกตามหาจนค่ำ เห็นเพียงรองเท้าแตะและรถจักรยานยนต์ถูกทิ้งไว้ริมหนองน้ำ ก่อนแจ้งผู้ใหญ่บ้านและอาสากู้ภัยให้ออกมาช่วยค้นหาทั้งคืน ออกตามหาในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงชุดประดาน้ำลงน้ำค้นหาท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด แต่ก็ยังไม่พบ จนเช้ามีคนเห็นเรือพลาสติก ถุงปุ๋ยใส่ปลา และตาข่ายดักปลา ห่างจากจุดที่ถอดรองเท้าไปประมาณ 50 เมตร อาสากู้ภัยลงน้ำงมค้นหาอีกครั้ง จนพบร่างผู้ตายช่วงบ่ายของอีกวัน

เมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 2 มกราคม 2565 พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.นาข่า ได้แจ้งชายหาปลาจมน้ำเสียชีวิต ที่สวนสาธารณะหนองแด ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ด้านหลังสถานีกาชาดที่ 9 อุดรธานี โดยมีแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี รุดออกไปตรวจสอบ ซึ่งอาสกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ,จุดบริการ อ.กุดจับ และ จุดบริการ อ.หนองหาน ได้ส่งชุดกู้ภัยทางน้ำ จำนวน 10 คน นั่งเรือท้องแบนออกตามหาร่างผู้ตาย ตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งมาพบศพในช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ห่างจากฝั่งประมาณ 10 ม.

ผู้เสียชีวิตชื่อนายบรรจง ป้อมเชียงพิณ หรือจง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 บ.โนนสว่าง ม.13 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังจากออกจากบ้านมาหาปลา ตั้งแต่เวลา 13.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2566 พบเพียงรองเท้าแตะถอดไว้ริมฝั่ง และรถจักรยานยนต์จอดไว้ ริมหนองน้ำ ญาติออกตามหาตั้งแต่ 16.00 น. เมื่อวานนี้ ก่อนแจ้งผู้ใหญ่บ้านและอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานเข้าค้นหาตั้งแต่ 20.00 น. เนื่องจากไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ และอากาศเย็นจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส จึงยุติการค้นหาเมื่อเวลา 23.00 น. ก่อนมาพบศพในวันนี้

นางแดง ยศวังทอง อายุ 53 ปี ภรรยานายบรรจงฯ เล่าว่า แต่งงานกับนายบรรจงจนมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย คนเล็กเป็นผู้หญิง สามีทำอาชีพรับเหมา มีบ้านพักอยู่ที่ บ.ดงเจริญ ม.11 ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. ผู้ตายชอบออกมาวางตาข่ายดักปลาที่นี่เป็นประจำ ช่วงมารับเหมาก่อสร้างสถานีกาชาด จะออกมาหาปลาบ่อยมาก และจะกลับเข้าบ้านประมาณ 16.00 น. ตนห้ามสามีตลอดว่าอย่าออกมา เพราะเห็นจากในข่าวว่ามักมีคนจมน้ำตายเวลาไปหาปลาลำพัง ไม่นึกว่าจะมาเจอกับตัวเองแบบนี้ เตือนแล้วก้ไม่ฟัง ออกมาหาปลาที่นี่ครั้งไหนเราก็ออกมาตาม มักจะด่าคนที่ออกตามหาว่าคิดมากเกินไป เป็นบ้าอะไรกันไปหมด

“ เมื่อวานนี้ตนก็ห้ามสามีเหมือนเคย แต่เขาบอกว่าเหงาไม่มีอะไรทำ ออกมาหาปลาดีกว่า เขาออกจากบ้านประมาณ 13.00 น. ประมาณ 10 นาที ก็โทรหาสามีแต่ไม่รับสาย คิดว่าคงลงหนองน้ำไปหาปลาแล้ว ประมาณ 16.00 น. ก็โทรหาอีกครั้งแต่ก็ยังไม่รับสาย ด้วยความร้อนใจจึงออกมาตามหาที่นี่ พบเพียงรองเท้าแตะ และรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ กระเป๋าเงิน โทรศัพท์ ก็ยังอยู่ใต้เบาะรถ เดินตะโกนตามหากันอยู่นาน เห็นท่าไม่ดีจึงโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ให้ประสานกู้ภัยมาลงน้ำค้นหาทั้งคืน แต่ก็ยังไม่พบ “

นางแดง เล่าอีกว่า เรือที่ล่มก็ไม่ใช่เรือของสามี อาจจะเป็นเรือของคนแถวนี้ เรือของตัวเองเอาไปเก็บไว้บ้านนานแล้ว เพราะไม่ค่อยได้ออกมา กลัวมันจะหาย สามีไม่ได้ไปไหนแน่นอน เพราะถ้าไปไหนสามีต้องพกโทรศัพท์มือถือไปด้วย เมื่อเช้าจึงให้ลูกชายคนโตไปจุดธูปบอกกล่าวขมาเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้เปิดทาง ให้พี่กู้ภัยพบเห็นร่างโดยเร็ว สงสารสามีที่ต้องจมอยู่ในน้ำ เพราะอากาศหนาวเย็นมาก ตนทำใจแล้วว่า สามีต้องจมอยู่ในนี้ ลางสังหรณ์อะไรก็ไม่มี ไม่ได้สั่งลากัน บอกลากันเลย คุยกันล่าสุดก็บอกเพียงว่าจะออกมาหาปลาเท่านั้น

นส.อมรรัตน์ พุกพันธุ์ อายุ 36 ปี หลานสาว นายบรรจงฯ เล่าวว่า สอบถามชาวบ้านที่มีที่นาอยู่ใกล้เคียงทราบว่า เห็นนายบรรจงฯ ภายเรืออยู่ในหนองน้ำช่วงเที่ยงช่วงบ่ายวานนี้ ก็คิดว่าคงมาหาปลาตามปกติเหมือนทุกครั้ง จากนั้นก็เห็นลอยคออยู่ในน้ำ ก็คิดว่าคงจะลงน้ำไปเก็บสายบัว เพราะไม่เห็นมีการตะโกนมาขอความช่วยเหลืออะไร 16.00 น. ญาติก็ออกมาตามหา กู้ภัยมางมหาตั้งแต่ 20.00 น. ยกเลิกค้นหาประมาณ 23.00 น. เช้ามามีคนเห็นเรือล่มอยู่กลางหนองน้ำ จึงนั่งเรืออกไปดู ก็เห็นเรือ กระสอบปุ๋ยใส่ปลา และตาข่ายดักปลา จึงเกิดการตามหาอีกครั้ง

นายณรงค์ บุตสาร อายุ 67 ปี ชาวบ้านดอนหวาย ต.กุดสระ เล่าว่า มีที่นาอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ตนจะใช้เส้นทางผ่านจุดเกิดเหตุไปที่นาตลอด และจะผ่านไปมาวันละ 3 เวลา เช้า เที่ยง เย็น เพื่อมาดูแลที่นา และมาเอาอาหารให้สุนัขที่เฝ้านา เมื่อวานนี้เวลาระหว่าง 15.00 น. – 16.00 น. ช่วงเวลานั้นมีลมพัดแรง ตนเห็นคนเกาะเรืออยู่ ก็คิดเพียงแค่ว่าเขาคงลงไปเก็บบัวในน้ำ เพราะไม่เห็นว่าจะมีการร้องขอความช่วยเหลืออะไร ตนจึงขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านไป เช้ามาก็มาเห็นคนอยู่เต็มพื้นที่ มีการมาค้นหาคนในน้ำ ก็ไม่นึกว่าจะมีคนจมน้ำตรงนี้จริงๆ ถ้ามีการตะโกนให้ช่วยเหลือคิดว่าต้องช่วยได้ทันแน่นอน เพราะตอนนั้นยังเห็นลอยคอเกาะเรืออยู่

พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.นาข่า เปิดเผยว่า ผู้ตายออกมาวางตาข่ายดักปลาตามลำพัง คาดว่าช่วงเกิดเหตุมีลมแรง จึงทำให้เรือล่มจมลงในหนองน้ำ ผู้ตายอยู่ห่างจากลำเรือเกือบ 10 เมตร อาจจะเป็นช่วงที่ผู้ตายพยายามว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งที่ห่างไปอีกประมาณ 10 เมตร แต่ด้วยสภาพหนองน้ำที่มีวัชพืชและต้นบัวจำนวนมาก จึงทำให้พันขาผู้ตายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และจมน้ำเสียชีวิต เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ญาติผู้ตายไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments