วันเสาร์, พฤศจิกายน 1, 2025
Google search engine
หน้าแรกศิลปวัฒนธรรม“แม่ครูหลวงสุนา” 1 ใน 4 ทหารเสือราชินีผ้าไหม

“แม่ครูหลวงสุนา” 1 ใน 4 ทหารเสือราชินีผ้าไหม

โครงการศูนย์ศิลปาชีพ “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในพระบรมราชินูปถัมภ์” ได้แต่งตั้งให้ช่างทอผ้ามากด้วยฝีมือเป็น “แม่ครูหลวง” และมีอยู่ 4 ท่าน รับการแต่งตั้งเป็น “ทหารเสือราชินีผ้าไหมไทย” คนแรก แม่ครูหลวงคำสอน สระทอง ทอผ้าแพรวา จ.กาฬสินธุ์ คนที่สอง แม่ครูหลวงประจวบ จันทร์นวล ทอผ้าไหมมัดหมี่บ้านนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ คนที่สาม แม่ครูหลวงวงเดือน อุดมเดชาเวทย์ ผ้าไหมมัดหมี่บ้านนาหว้า จ.นครพนม และคนที่สี่ แม่ครูหลวงสุนา ศรีบุตรโคตร ทอผ้าไหมลายขิด อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

ที่โครงการส่งเสริมการทอผ้าขิดไหม มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง บ้านหนองอ้อ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ ปี 2525 ซึ่งเป็นบ้านของนางสุนา ศรีบุตรโคตร อายุ 80 ปี หรือ “แม่ครูหลวง” ภายในบ้านได้ตั้งรูปภาพ แม่ครูหลวงสุนา รับพระราชทานรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การทอผ้าขิดไหม พระพันปีหลวงทรงสวมสร้อยคำทองคำ และเหรียญทองคำ น้ำหนัก 5 บาท นอกจากนั้นยังมีภาพ และเกียรติบัตรต่าง ๆ จำนวนมาก โดยมีผ้าขิดไหม ย้อมด้วยสีธรรมชาติ ทออย่างปรานีตสวยงาม จัดแสดงไว้จนสดุดตา

พบกับ “แม่ครูหลวงสุนา” พร้อมกับลูกสาว 2 คน คือ น.ส.กิตติมา ศรีบุตรโคตร เป็นพยาบาล , น.ส.วารุณี ศรีบุตรโคตร ครู กศน. อ.หนองวัวซอ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น และความเป็นกันเอง ในการบอกเล่าเรื่องราว การเริ่มต้นของครอบครัวเกษตรกรทั่วไป ทำไร่ ทำนา ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ทอผ้าตามบรรพบุรุษ เป็นวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย แต่งงานสร้างครอบครัว มีลูก 5 คน ได้ทอผ้ามัดหมี่ ผ้าโสร่ง ผ้าขิดฝ้าย ใช้กันเองในครัวเรือน และนำไปแลกข้าวปลาอาหาร หรือข้าวของเครื่องใช้บ้าง

ในปี 2525 “ พระพันปีหลวง” แปรพระราชฐานยังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร ได้เสด็จมากราบนมัสการ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ในขณะนั้น ตนจึงได้ไปรับเสด็จ และนำผ้าขิดไหมที่ทอไปถวาย พระองค์ชมว่า “สวยมาก” พร้อมแต่งตั้งให้เป็น “ครูหลวง” จากนั้นก็มาตั้งโรงทอผ้าให้ที่หมู่บ้าน เพื่อสอนให้ชาวบ้านทอผ้าขิดไหม

ต่อมาเมื่อพระองค์ได้แปรพระราชฐาน ไปพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ พระพันปีหลวง ได้รับสั่งให้ตนไปพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพื่อไปสอนการทอผ้าขิดไหม ให้นักเรียนซึ่งส่วนมากเป็นชาวเขาราว 1 เดือนเศษ นอกจากนี้ยังไปสอนในศูนย์ศิลปาชีพ จ.พระนครศรีอยุธยา และพระราชวังสวนจิตรลดา ทำให้ได้เรียนรู้ลายผ้าใหม่ ๆ ได้ทอผ้าขิดไหมลายใหม่ที่พระราชทาน ย้อมด้วยสีธรรมชาติ เสร็จแล้วก็จะส่งไปวังหลวง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบ และมักจะส่งลายใหม่ มาให้ทออยู่เป็นประจำ รายได้จะนำมาส่งลูก 5 คน เรียนจบปริญญาตรี

เมื่อปี 2539 พระพันปีหลวง ทรงเสด็จแปรพระราชฐาน มาที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร ได้ส่งผ้าขิดไหมเข้าประกวดที่ลานคำหอม มีทูตจากประเทศต่างๆ เป็นแขกเข้าชมด้วย ซึ่งผ้าของตนได้กวาดรางวัลอันที่ 1-รางวัลชมเชย รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับพระราชทาน สร้อยคอพร้อมเหรียญทองคำหนัก 5 บาท และเงินสดจำนวนหนึ่ง และเมื่อส่งผ้าขิดไหมเข้าประกวด ก็จะได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ทุกครั้ง ได้รับพระราชทานสร้อยคอพร้อมเหรียญทองคำหนัก 5 บาท 5 ครั้ง ซึ่งก็ได้มอบให้ลูกทั้ง 5 คน ลูกคนโตผู้ชายเป็นครู คนที่สองผู้หญิงเป็นพยาบาล คนที่สามผู้หญิงเป็นครู คนที่สี่ผู้ชายเป็นผู้จัดการสำนักงานไฟฟ้า และคนที่ห้าผู้หญิงเป็นครู (เสียชีวิต)

ถึงตอนนี้ตนยังทอผ้าขิดไหม ตามลายที่ส่งมาจากวังหลวง เพราะสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี หรือพระองค์หญิง ทรงสืบสานและต่อยอดศูนย์ศิลปาชีพ ทำให้ไม่มีผ้าขิดไหมจากตนวางขายทั่วไป ซึ่งแม้จะมีอายุมากหูตาไม่ค่อยดีแล้วก็ตาม ก็จะมานั่งทอผ้าขิดไหมเหมือนเดิม โดยจะมีลูกสาวทั้งสองคน เป็นผู้สืบสานทอผ้าขิดไหมต่อจากตน เมื่อเดือนเมษายน 2568 ครอบครัวเราดีใจที่สุด เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ได้ฉลองพระองค์ชุดผ้าขิดไหม ลายมรดกโลก สีน้ำเงิน เสด็จกลับจากเยือนประเทศภูฏาน ซึ่งท่านข้าหลวงได้นำพระบรมฉายาลักษณ์มามอบให้ถึงบ้าน สร้างความปิติยินดีให้ครอบครัวหาที่สุดมิได้

แม่ครูหลวงสุนา เผยความรู้สึกหลังทราบว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต ว่า “ รู้สึกเสียใจมาก ร้องไห้เลย คิดถึงมากด้วย ถึงแม้ว่าตนจะทอผ้าไม่ได้ แต่จะให้ลูกหลานสืบทอดการทอผ้าขิดไหม เพื่อเป็นมรดกของแผ่นดินตลอดไป ขอให้สมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จสู่สวรรคาลัย ”….

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments