เมื่อเวลา 15.23 น. วันที่ 1 เมษายน 2565 ขณะที่ ร.ต.อ.นิวัฒน์ แจงกระโทก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจาก นางนางน้อย ภิญโญขวัญ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 221 ม.13 ต.สามสวน อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ แม่ค้าร้านขายข้าวสาร อาหารไก่ เลขที่ 83 บ้านโนนขมิ้น ซ.4 ม.2 ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี ว่าวันนี้เวลาประมาณ 13.30 น. ถูกคนร้ายขโมยกระเป๋าสะพายแบบหนังสีดำ ที่ตนเองวางอยู่บนชั้นวางของหน้าร้าน ข้างในมีเงินสด 12,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท บัตรบัตรประชาชน และบัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ ที่ตนเขียนรหัสเอาไว้ด้านหลังบัตรเพราะกลัวลืม และมีเงินในบัญชีประมาณ 5,000 บาท
หลังรับแจ้งตำรวจจึงออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจชุมชนตำบลหนองบัว พบเป็นบ้านเช่า 2 ชั้น ครึ่งปูนไม้ อยู่ติดกับร้านเสริมสวย อยู่ห่างจากปากซอยราว 100 เมตร นางนางน้อยฯได้นำตำรวจชี้จุดที่วางกระเป๋าเอาไว้ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อกินข้าว พอกลับออกมาปรากฏว่ากระเป๋าของตนหายไปพร้อมกับทรัพย์สินมีค่า จึงรีบขึ้นไปบอก นายอำไพ ฝาหมื่นแก้ว อายุ 56 ปี หลานเขยที่นอนอยู่บนบ้าน พาเดินไปแจ้งกับ นางพรเพ็ชร ชไนเดอร์ ผญบ.โนนขมิ้น อยู่ที่ทำการกองทุนหมู่บ้าน ที่อยู่ถัดไป 50 เมตร
โดยผู้ใหญ่บ้านแนะนำผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจที่โรงพัก ส่วนผู้ใหญ่บ้านได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หน้าที่ทำการกองทุนหมู่บ้าน พร้อมกับเดินสำรวจกล้องวงจรปิดในระแหวกใกล้เคียงพบ คนรายเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม. ผิวดำแดง ผมรองทรง สวมเสื้อยืดคอกลมสีกรมท่า นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าแตะสีเทา และสวมหน้ากากอนามัยสีดำไว้ที่คาง ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีเหลือง ป้ายทะเบียนไม่ชัด ขับขี่วนเวียนอยู่หลายรอบและหาจังหวะลงมือก่อเหตุ ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางหน้าปากซอย พร้อมกับกระเป๋าของผู้เสียหาย
นางน้อยฯ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนมาช่วยหลานสาวและหลานเขย เฝ้าร้านขายข้าวสารอาหารไก่มาเกือบ 1 เดือน โดยพักอาศัยอยู่ที่ร้านด้วยกัน 3 คน ก่อนเกิดเหตุตนนั่งเฝ้าหน้าร้านขาวข้าวสารตามปกติ ส่วนหลานเขยนอนพักผ่อนอยู่บนชั้นสอง และหลานสาวออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ตอนนั้นรู้สึกหิวข้าว จึงเดินไปกินข้าวที่หลังร้าน โดยเผลอวางกระเป๋าสะพายไว้บนชั้นวางของหน้าร้าน และกินข้าวเพียงคำเดียว ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมวางกระเป๋าทิ้งไว้ จึงรีบวิ่งออกมาหน้าร้าน ปรากฏว่ากระเป๋าได้หายไปแล้ว จึงรีบขึ้นปลุกหลานเขยมาช่วยไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และพากันไปขอดูกล้องวงจรปิด ก็เห็นภาพคนร้ายขณะลงมือก่อเหตุอย่างชัดเจน ก่อนที่หลานเขยจะพาไปแจ้งความที่โรงพัก
“ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยรู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่นึกว่าความประมาทเผลอลืมวางกระเป๋าไว้แค่แปบเดียว จะมาเจอโจรขโมยของได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ ฝากถึงตำรวจให้รีบติดตามจับกุมค้าร้ายให้ได้โดยเร็ว เสียดายเงินที่ค้าขายสะสมเก็บไว้ และเสียดายสร้อยคอทองคำที่ซื้อมาจากเงินเก็บ หากคนร้ายดูอยู่ อยากจะบอกว่ายายขอเงินและสร้อยทองคืนด้วย เพราะช่วงนี้ยายก็ลำบากเหมือนกัน “
นายอำไพฯ หลานเขย เปิดเผยว่า ตนและภรรยาเช่าห้องนี้เปิดเป็นร้านขายข้าวสารและอาหารไก่ มาประมาณ 2 ปี ก่อนหน้านี้ดูแลเองทั้งหมด และเพิ่งให้ยายน้อยซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของภรรยา มาช่วยเฝ้าร้านได้ยังไม่ถึง 1 เดือน เนื่องจากตนต้องไปรับซื้ออ้อยส่งโรงงานหีบอ้อย ก่อนเกิดเหตุตนขึ้นไปนอนพักผ่อนบนชั้น 2 ปล่อยให้ยายน้อยเฝ้าหน้าร้านคนเดียว กระทั่งยายน้อยร้องตะโกนและขึ้นมาบอกว่ากระเป๋าสะพายถูกขโมยหายไปจากร้าน พอรู้ว่าเกิดเหตุแล้ว จึงรีบพายายไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านก่อนพามาแจ้งความที่โรงพัก
นางมะลิวัลย์ สวัสดิ์ อายุ 53 ปี หลานสาวยายน้อย เปิดเผยว่า มีอาชีพเป็นพนักงานร้านเฟอร์นิเจอร์ในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อเช้าก่อนออกไปทำงานรู้สึกว่า ตาข้างซ้ายกระตุก และกระตุกจนน้ำตาไหลมาตั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งหากมีอาการแบบนี้ จะมักเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ตากระตุกตอนไหนจะเกิดเรื่องร้ายทุกครั้ง ล่าสุดที่ตากระตุกก็มีเรื่องทะเลาะกันเองในครอบครัว และเมื่อเช้าคิดไว้แล้วว่าจะต้องมีเรื่องร้ายแน่ๆ จนไม่อยากจะออกไปทำงาน อยากจะลางานอยู่บ้าน แต่ก็มีเหตุจำเป็นออกไปที่ทำงาน ก่อนออกไปได้พูดเตือนยายน้อยไว้ว่าให้ระมัดระวังตัวเอง และทรัพย์สินในร้านด้วย พอสามีโทรบอกว่ามีคนร้ายมาขโมยเอากระเป๋ายายน้อยไป ก็รีบกลับมาที่ร้านทันที ไม่นึกว่าเหตุร้ายที่กังวลจะเกิดขึ้นในลักษณะนี้
