เมื่อเช้าวันที่ 31 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านค้อปัญญานุสรณ์ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ราชวัตร ป้องนางไชย คุณครูจากโรงเรียนบ้านค้อปัญญานุสรณ์ ได้โพสต์ภาพมอบเกียรติบัตรให้นักเรียนที่ทำความดี และกิจกรรมเด่น พร้อมข้อความ “ มอบเกียรติบัตรทำดีให้กับนักเรียน ชีวิตคน คนหนึ่ง ไม่ได้ดีทั้ง 100% แต่จงเลือกเอาสิ่งที่ดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์ต่อโลกบ้างยังน่าดู” โดยมีนักเรียนได้รับเกียรติบัตรแตกต่างกัน โดยเกียรติบัตรที่เรียกเสียงฮือฮา และอดอมยิ้มไม่ได้คือ “ขุดปูนาเก่ง” โพสต์ดังกล่าวมียอดกดไลค์กว่า 14,000 ครั้ง และมีการกดแชร์มากกว่า 18,000 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายไชยเลิศ ผดุงเวียง ผู้อำนวยการโรงเรียน และนายราชวัตร ป้องนางไชย ครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ครูผู้โพสต์เรื่องดังกล่าวลงสื่อโซเชียน ที่กำลังควบคุมเด็กนักเรียนซ่อมเดินพาเหรด เพื่อร่วมกิจกรรมแข่งกีฬาของกลุ่มโรงเรียน หลังจากมีการสอบปลายปีไปแล้ว ก่อนที่จะปิดภาคเรียน โดยนักเรียนชั้น ป.2 ที่เรียกกระแสฮือฮาก็อยู่ในกลุ่มนักเรียน ที่กำลังซ้อมเดินพาเหรดอยู่ด้วย และเมื่อซ้อมเสร็จได้นำเด็ก ๆ ที่ได้รับเกียรติบัตรความสามารถต่าง ๆ ออกมาพบผู้สื่อข่าว
นักเรียนชั้น ป.2 ได้แสดงกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ ที่มีการรวมกลุ่มของเด็กนักเรียนหญิง ที่มี ด.ญ.พิรญาณ์ พรมสรรค์ หรือ น้องอิ้งค์ อายุ 8 ขวบ มาร่วมเต้น ที่นักเรียนมีความกล้าแสดงออก และเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นประกอบเพลง การจัดเสียงตามสายของกลุ่มดีเจน้อย และการร้องเพลง โดย น้องอิ้งค์ บอกว่าคิดไว้เยอะโตขึ้นจะเป็นอะไร เช่น เรียนนาฏศิลป์ เป็นนักร้อง เป็นแดนเซอร์ แล้วก็อยากเปิดร้านขายส้มตำ-น้ำปั่น
จากนั้น นายไชยเลิศฯ และ นายราชวัตร ได้นำด.ช.ธนกฤต เนาวเพ็ชร หรือ น้องปลาคราฟ อายุ 8 ขวบ และเพื่อน ๆ ผู้รับรางวัล “ขุดปูหาเก่ง” ออกไปที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน เพื่อให้ น้องปลาคราฟ แสดงวิธีการขุดปูนา โดยน้องปลาคราฟ พร้อมพี่ชาย คือ ด.ช.วิชากร เนาวเพ็ชร หรือ น้องเค อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ได้นำเสียม และถังสำหรับใส่ปูนา นำออกไปหาปูนา ใช้เสียมขุดดินบริเวณพบรูปูลึก 30 เซนติเมตร ถ้ารูนั้นมีปูอยู่ก็ใช้มือจับปูออกมา ถ้าไม่เจอปูก็หารูใหม่ เพียงเวลาไม่นานจับปูนาได้ 2 ตัว
ด.ช.ธนกฤต หรือน้องปลาคาร์ฟ เล่าว่า หลังเลิกเรียนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ จะชวนพี่ชายไปขุดปูในทุ่งนา เพื่อนำมาทำอาหาร อ่อมปู เอาะปู และจี่ปู และแบ่งไปขาย โดยจะขายตัวละ 1 บาท ทำเป็นถุงละ 20 ตัว ขายถุงละ 20 บาท เงินที่ได้จะนำไปซื้อขนม ไม่ต้องไปขอเงินพ่อแม่ นอกจากจะขุดปูนาเก่งแล้ว ยังจับปลาเก่งด้วย การขุดปูจะต้องมีความชำนาญ ด้วยการสังเกตว่ารูไหนมีปู คือปากรูปูจะมีดินที่ปูขุดออกมากองไว้ปากรู หรือภาษาอีสานเรียกว่า “ขวยดิน” ก็จะขุดลงไปประมาณ 1 ฟุตก็จะพบปูอยู่ในรู และสามารถแยกได้ว่าปูตัวผู้และปูตัวเมีย
นายราชวัตร ป้องนางไชย หรือครูบอม ครูประจำชั้นประถมปีที่ 2 เจ้าของไอเดียแจกใบเกียรติบัตรนักเรียน เล่าว่า จบปีการศึกษาจะมีการมอบเกียรติบัตร ความดี คุณธรรมให้นักเรียน ท่านผู้อำนวยการให้นโยบายมาว่า “คุณธรรมนำความรู้” ซึ่งเด็กแต่ละคนจะมีความดีแตกต่างไม่เหมือนกัน เช่น ปลาคาร์ฟขุดปูนาเก่ง โดยถามจากเพื่อนในชั้นว่า น้องปลาคาร์ฟ ขุดปูนาได้ 20 ตัว ขายได้ 20 บาท เลยปิ๊งไอเดียคือมีความสามารถ “เก่งขุดปูนา” ส่วนคนอื่นมีคุณธรรมและความดีแตกต่างกันไป คือ เต้นเก่ง , ดีเจน้อย , แบ่งบันมันนึ่ง , แบ่งบันขนม , รู้จักพูดขอโทษ จึงนำมากรอง และเด็กในชั้นเรียนจะได้ใบเกียรติบัตรทุกคน
“ ผอ.ให้นโยบายมอบเกรียติบัตรทุกคน มีนักเรียนคนหนึ่งนำมันนึ่งมาให้ครู ผมจะจดเอาไว้ว่านี่คือ เรื่องที่จะเอาไปพิจารณา โดยปกติจะยึดหลักคุณธรรม แต่ผมจะใช้จริยธรรมมากว่า คุณธรรมจะอยู่ในจิตใจมองไม่เห็น แต่จริยธรรมคือการกระทำลงปฏิบัติ ส่วนที่โลกโซเชียลแชร์จนคนรู้จักกันทั่วไปแล้ว ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไร เพียงเอาลงไปเฟสของผมเองและของโรงเรียน เพราะคิดว่าจะมีคนสนใจเยอะ จึงเอากิจกรรมนี้เป็นแนวคิด เผื่อเพื่อนหรือใครจะเอาไปเป็นไอเดีย ซึ่งเมื่อนำลงไปแล้วผมก็ตกใจ ที่มีคนแชร์ไปจำนวนมาก ผมก็ดีใจและยินดี ถ้าใครอยากจะได้ไฟล์ก็ยินได้ให้ เพื่อเป็นแนวทางให้โรงเรียนอื่นได้ ”
นายไชยเลิศ ผดุงเวียง ผอ.โรงเรียนบ้านค้อปัญญานุสรณ์ เปิดเผยว่า โรงเรียนเปิดสอนอนุบาล-ป.6 มีนักเรียน 127 คน ครูและบุคลาการ 8 คน นอกจากการเรียนสำเร็จ ก็จะมีกิจกรรมเรียนดี กีฬาเด่น แต่เด็กอีกพวกเรียนไม่เก่ง กีฬาไม่ได้ เด็กทุกคนมีเรื่องดี ๆ จึงอยากให้เด็กทุกคนได้รับ จึงให้นโยบายครูไปว่า อยากจะให้ทุกคนได้เกียรติบัตร ซึ่งครูประจำชั้นจะรู้ว่าเด็กเด่นทางไหน ต่อมาครูราชวัตร ได้นำแฟ้มมาเสนอ พอเปิดดูก็ไม่เห็นขุดปูนาเก่ง เห็นแต่เรื่องเด่นอื่น ๆ ซึ่งได้มอบเกียรติบัตรหน้าเสาธง ไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
“ พอเด็กได้รับทุกคนก็ดีใจ พอเด็กรู้ว่าวันนี้จะมีคนมาทำข่าวก็ยิ่งดีใจ ซึ่งช่วงแรกเป็นนักเรียนชั้น ป.2 ทุกคนที่ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ ส่วนชั้นอื่นครูจะทยอยทำ ส่วนข้อสังเกตที่เด็กแต่ละคนได้รับใบประกาศเกียรติคุณ อยู่ที่ครูประจำชั้นของเด็ก ที่เขาจะทราบว่าเด็กแต่ละคนเป็นอย่างไร รวมทั้งเรามีกิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียนคลุกคลีกับเด็กอยู่แล้ว โดยผมบอกครูทุกคนว่า นอกจากการสอนใครมีไอเดียความคิดดี ๆ ก็ขอให้ทำกับเด็กเพื่อให้เขามีความสุข ”
