เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับ นายฑานุพงษ์ อุทรักษ์ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 199/26 ม.11 ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีเทา ทะเบียน กว-4894 ขอนแก่น , อาวุธปืนพก ออโตเมติก ขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 10 นัด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง นาฬิกาข้อมือแบรนด์เนม 7 เรือน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง สร้อยคอทองคำขาวพร้อมจี้รูปหัวใจ 1 เส้น แหวนทอง 1 วง และพระเครื่องหลวงพ่อโสธร รุ่นหลังคาโบสถ์ ถูกแกะเอากรอบเลี่ยมทองคำไปขาย 1 องค์ พร้อมด้วยทรัพย์สินอย่างอื่นที่ตำรวจ เชื่อว่าถูกโจรกรรมมา เช่นกระเป๋าสะพายยี่ห้อต่างๆ อีกจำนวนหลายใบ
กล่าวหา ลักทรัพย์บ้านพัก เลขที่ 436/100 หมู่บ้านหรรษา ม.4 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายปิติภณ โพธิ์ใต้ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (อดีตท้องถิ่น จ.อุดรธานี) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินรวมมูลค่าเกือบ 6 แสนบาท คือ อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.พร้อมเครื่องกระสุน ราคา 8 หมื่นบาท , นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ 1 เรือน ราคา 2 แสนบาท , แหวนเพชร 1 วง ราคา 1 แสนบาท แหวนทอง , ทองรูปพรรณ , พระเครื่อง และทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นอีกจำนวนหลายรายการ
พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จาการสอบสวนคนร้ายขับรถยนต์เก๋ง เข้ามาภายในหมู่บ้านหลายรอบ ก่อนเข้างัดบ้านขโมยทรัพย์สิน แล้วหลบหนีไปกบดานอยู่กับแฟนสาวที่หอพัก ต.ขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม รถคัดก่อเหตุเป็นชื่อของแม่คนร้าย โดยเฟสบุ๊กของคนร้ายเปิดขายสินค้ามือสอง ในเพจชื่อดังเมืองอุดรธานี จึงติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ที่ห้องพักแฟนสาว
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า พ่อแม่รับราชการทั้งสองคน เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในเขตภาคอีสาน 2 แห่งแต่ไม่จบ เคยถูกตำรวจ จ.มหาสารคาม จับกุมข้อหาลักทรัพย์ มาเปิดห้องพักอยู่กับแฟนสาว โดยบอกทำธุรกิจซื้อ-ขายสินค้ามือสองทางเฟส สินค้าส่วนใหญ่ได้มาจากก่อเหตุงัดบ้าน เชื่อว่าผู้ต้องหาก่อเหตุงัดบ้านตามหมู่บ้านจัดสรรในเขตพื้นที่ อ.เมืองอุดรธานี มาแล้ว 6 ครั้ง แต่ผู้ต้องหารับสารภาพเพียง 3 ครั้ง เพราะจำนนด้วยหลักฐาน ที่เหลืออ้างว่าจำไม่ได้