เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ตุลาคม ที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 , พ.ต.อ.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน รรท.ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พร้อมสืบสวนภาค 4 และสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี แถลงข่าวจับแก๊งลาก เอทีเอ็ม. ธนาคารกรุงไทย หน้าห้างเทสโก้โลตัส อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เมื่อคืนวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายณัฎฐชัย หรือ จ.ส.ต.ณัฎฐชัย ชินโพธิ์คลัง อายุ 32 ปี อยู่เลขที่ 59 หมู่ 11 ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย
นายอาณุพร อักษร อายุ 26 ปี อยู่เลขที่ 125 หมู่ 4 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และนายสมพร มีศรี อายุ 32 ปี อยู่เลขที่ 17 หมู่ 4 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี พร้อมของกลางสลิง 1 เส้น หัวเผาเจาะความร้อน สายแก๊ส ถังแก๊ส ถังออกซิเจน 1 ชุด รถยนต์กระบะ อีซูซุ ฟาสเตอร์แซด สีแดง ทะเบียน บม 3431 ลำพูน กล่าวหา “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ”
พล.ต.ท.สุรชัย เปิดเผยว่า ที่เกิดเหตุคนร้ายได้ใช้สีสเปรย์พ่น กล้องวงจรปิดหน้าห้าง และกล้องวงจรปิด ตู้เอทีเอ็ม. แต่ยังมีกล้องวงจรปิดในห้าง ส่องออกมาด้านนอก และกล้องวงจรปิดส่วนอื่น เป็นหลักฐานตำหนิรูปพรรณคนร้าย ที่ขับรถยนต์ปิกอัพอีซูซุ ฟาสเตอร์แซด สีแดง ทะเบียน บม 3431 ลำพูน บรรทุกถังแก๊ส และอุปกรณ์เจาะ ปิกอัพมิตซูบิชิ ไททัส สีดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนมาจอด ใช้ลวดสลิงผูกตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทย กับรถปิกอัพมิตซูบิชิไททัน แล้วดึงตู้เอทีเอ็มออกมากลางถนน ขณะใช้ไฟแก๊สเจาะตู้มีรถผ่านมา ทั้งหมดจึงขับรถหลบหนีไป
“ ตำรวจแกะรอยคนร้ายหนีไปทาง จ.หนองคาย สิ้นสุดที่ จ.บึงกาฬ และสืบสวนจนรู้ตัวคนร้าย รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับ และเข้าจับกุมทั้งหมดได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุ นายณัฎฐชัย นายอาณุพร นายสมพร ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้านี้คืนวันที่ 16 สิงหาคม ได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าร้านอาหารเจ๊วิ บ้านเซิม ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เมื่อไม่ได้ทรัพย์สิน ได้ชักชวนกันลงมือที่ อ.บ้านดุง โดยมาดูลาดเลาวันที่ 23 สิงหาคม ”
พล.ต.ท.สุรชัย เปิดเผยอีกว่า หลังหลบหนีนายณัฎฐชัย ได้ทำลายหลักฐานด้วยการนำรถปิกอัพมิตซูบิชิ ไปขายให้ชาวลาวนำข้าม สปป.ลาว กระทั่งมาถูกตำรวจติดตามจับกุม ส่วนประวัตินายณัฏฐชัย เคยรับราชการทหารยศ จ.ส.ต. สังกัด มทบ.24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ถูกให้ออกจากราชการหลายปีก่อน และมีหมายจับ 2 หมาย ศาลแขวงลำปาง ข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นสามารถหางาน และส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้” และหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ข้อหา “ลักทรัพย์” ซึ่งจะได้สืบสวนว่าเกี่ยวข้องกับการค้ารถข้ามชาติหรือไม่